งานแต่งงาน คาดกันว่ามีวันเดียวในชีวิต  วันนี้จึงต้องเป็นวันสำคัญมาก ๆ ไม่เพียงแต่บ่าวสาวที่ต้องการความทรงจำที่ดี แต่แขกที่รับเชิญ ก็อยากได้ความสนุกสนาน ประทับใจ พิเศษ… ที่มากกว่าการรับประทานอาหารค่ำเท่านั้น

หลังจากงานพิธีอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว คู่บ่าวสาวมักเลือกที่จะฉลองการสมรสกับญาติสนิทและเพื่อนฝูงใกล้ชิดกันบนเรือสำราญ….. ที่จำเป็นอย่างยิ่ง ต้อง “ เป็นส่วนตัว “

อาหารบนเรือ สามารถจัดได้หลายรูปแบบ เช่น เป็นงานค๊อกเทล บุฟเฟ่ต์ หรือบาร์บีคิว  กิจกรรมของงาน ก็มีตั้งแต่การยกน้ำชา ไปจนถึงดิสโก้ปาร์ตี้ การตกแต่งเรือ ก็ได้หลายสไตล์

ล้อมด้วยสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา  การล่องเรือ  มีเสน่ห์หลายอย่างที่ควรค่าแก่การจดจำ มากกว่าการอยู่ในห้องโรงแรม บรรยากาศธรรมชาติยามค่ำคืน ลมพัดเย็นสบายจากดาดฟ้าที่เปิดโล่ง ชวนให้แขกเป็นกันเอง ผ่อนคลาย และรู้สึกสนุกสนาน ได้รับประทานอาหารค่ำอร่อย ๆ (บอกเล่ามาจากแขกแทบจะทุกคณะ ว่าอร่อย )

แต่การแต่งงานบนเรือ ก็มีข้อจำกัดอย่างหนึ่งที่ต้องประสานงานให้ดี นั่นคือ เวลาลงเรือ หรือที่เรียก Boarding Time แขกต้องตรงเวลา  เจ้าภาพต้องนัดแขกไว้ล่วงหน้าสัก 45 นาที โชคดีที่เราใช้ท่าเรือ  “ เอเชียทีค “  ซึ่งแขกสามารถมาเดินเล่น ช๊อปปิ้ง ตามอัธยาศัยก่อนเวลาได้อย่างเพลิดเพลิน เมื่อเรือออกแล้ว แต่ยังมีแขกตกหล่น ด้วยความที่เป็น “ เรือส่วนตัว “ เราก็สามารถวนเรือกลับมารับอีกได้เช่นกัน หรือหากมีใครที่จำเป็นต้องกลับบ้านก่อนจริง ๆ เราก็สามารถส่งกลับก่อนได้ที่ท่าเรือที่ผ่าน

เมื่อจบงาน ทุกคู่แต่งงานลากลับไปด้วยรอยยิ้ม และคำขอบคุณอย่างจริงใจ ซึ่งเป็นกำลังใจให้ลูกเรือทุกคนพร้อมใจกันทำให้งานหน้าดียิ่งขึ่นไปอีก บางคนก็เขียนอีเมลขอบคุณตามมาในวันรุ่งขึ้น  ในฐานะผู้ดำเนินการจัดงาน ก็มีความยินดีเป็นที่สุดเช่นกันที่ทำให้คู่บ่าวสาวประทับใจ