6 ข้อต้องคำนึงก่อนตัดเช่าชุดเจ้าสาว

       
        อะฮ้า! และแล้วโปรเจ็กต์ Bride To Be ก็มาถึงจุดไคลแมกซ์ในตอน "ชุดเจ้าสาว" หลังจากบ่มเพาะบิวตี้กันมาทุกขั้นตอนทุกรายละเอียด เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว เพราะชุดเจ้าสาวเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดเสียไม่ได้ในงานวิวาห์
        มีมั้ย! เจ้าสาวจะลากหูหนีบคีบแตะ สวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืด ในวันสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต งานแต่งงานของคุณมันไม่ได้มีกันบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าพลาดงานนี้ ไปแก้ตัวงานหน้าหรอกนะ      
       แล้วจะเลือกชุดแบบไหน อย่างไรให้เข้ากับเจ้าสาวซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันไป อาจฟังดูแล้วเป็นโจทย์ให้ขบคิดง่ายๆ แต่จะมีคนรู้ลึกถึงรากเหง้าแก่นแท้ชุดเจ้าสาวสักกี่คนเชียว       
       แต่เราได้กอบโกยคำแนะนำเหล่านั้นอย่างครบเครื่องถี่ยิบแล้วค่ะ จาก คุณอุ๋ย-อภิชาต ชาติวานนท์ เจ้าของร้านปีเตอร์ เคลลี่ (Peter Kelly) ผู้อยู่เบื้องหลังชุดวิวาห์สวยสดเกินจินตนาการมากว่า 30 ปีโดยเน้นสไตล์ "เรียบ โก้ คลาสสิก"      
       แล้วก่อนจะออกแบบตัดชุดเจ้าสาว เหล่าบรรดาดีไซเนอร์ ช่างตัดเย็บเขาต้องคำนึง หรือมองข้อดี ข้อด้อยอะไรผ่านตัวเจ้าสาวบ้างล่ะคะพี่อุ๋ย

 ข้อคำนึงแรก ธีม – โทนสีของงาน
       "ถ้าเกิดลูกค้าเข้ามาหาพี่อุ๋ย พี่จะคุยเรื่องของโครงสร้างของเจ้าสาวก่อน สถานที่ และบรรยากาศในงาน และถามว่าธีม (theme) งานเป็นแบบไหน โดยมากพวกทีม wedding planner จะเป็นคนคิดธีม ใช้สีโน้นสีนี้ ฉะนั้นเจ้าบ่าว เจ้าสาว จะมานั่งกังวลว่าจะใส่สีอะไรเพื่อให้เข้าสีธีมของงาน พี่อุ๋ยบอกได้เลยว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องโทนสี ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นสีกลางอยู่แล้ว       
       แต่เราต้องมาจัดการอย่างไรกับพวกดอกไม้ ผ้าปูโต๊ะ หรือองค์ประกอบอื่นๆ ภายในงาน เพื่อจะมาช่วยเสริมเราให้ out standding ออกมา ให้ตัวเราเป็นจุดเด่นจะดีกว่า"      
       พี่อุ๋ยแนะคู่บ่าวสาวเลี่ยงทำตัวเป็นเด็กนักเรียนเห่อช่วงกีฬาสี ต้องใส่สีที่โรงเรียนบังคับเท่านั้น หรือชุดเจ้าสาวเป็นสีครีม ชุดเจ้าบ่าวจะต้องมีอะไรที่เป็นสีครีมในตัวด้วย เป็นต้น      
       "สีขาว ครีม ชานอ้อย คือ สีกลางของฝ่ายเจ้าสาว ส่วนเจ้าบ่าว คือ สีดำ ขาว เทา เบส หลีกเลี่ยงการแต่งตัวที่เป็นนักเรียน ต้องเอาส่วนใดส่วนหนึ่งของอีกคนมาใส่สีเดียวกัน เอาส่วนของเจ้าสาวมาใส่ในตัวของเจ้าบ่าว มันเหมือนนักเรียน งานโรงเรียนอนุบาล ซึ่งตรงนี้พี่พยายามจะเปลี่ยนค่านิยม หรือความกลัวไป ถือเอาความถูกต้องของการสวมใส่ให้ตรงกับเวลา สถานที่ เป็นหลักดีกว่า"      
       พี่อุ๋ยฝากแนะทีม wedding planner ด้วยอีกว่า      
       “การจัดธีมของงานเราต้องมามองถึงภาพโดยรวม เพื่อทำให้ช่างภาพถ่ายรูปได้ง่าย สวยขึ้น เหมือนคนทำภาพยนตร์ เขาจะตั้งธีมเลยว่า ธีมขาว ดำ แดง ม่วง เขียว ส้ม เทา ฟ้า เหลือง เราต้องทำให้เหมือนเป็นภาพยนตร์ ทำอย่างไรให้ภาพดูสวย ดังนั้นองค์ประกอบของสี และตัวเจ้าบ่าว เจ้าสาวเอง รวมถึงบรรยากาศในงาน หรือชุดของแขกที่ใส่มาร่วมในงาน เมื่อรวมตัวผสมกันเราจะมองเห็นเป็นภาพแล้วจะเกิดมิติ ซึ่งจะทำให้ภาพนั้นสวยขึ้น มากกว่าเป็นกีฬาสีทั้งงาน โทนสีเดียวกันหมด แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดต้องทำอย่างไรให้คู่บ่าวสาวโดดเด่นเหนือองค์ประกอบทั้งหมดมากกว่า” 
    
ข้อคำนึงสอง สรีระของเจ้าสาว
        "แก้รูปร่างก่อนเลย ชุดอาจจะไม่สวย แต่เอารูปร่างเจ้าสาวสวยไว้ก่อน หลายคนไปคิดว่าจะเอาชุดสวยแต่รูปร่างไม่สวย พี่อุ๋ยว่า word มันหายไปนะ สิ่งที่ทำมาเหนื่อยเลย ลูกค้าใส่ชุดแล้วยังคงเห็นหัวโต ไหล่แคบอยู่" พี่อุ๋ยกำชับ อย่าพะวงเรื่องชุดจะไม่สวย แก้รูปร่างตัวเองให้แจ่มพริ้งนิ้งก่อนดีกว่า
        "เจ้าสาวมักจะมองว่า คนนั้นใส่สวย คนนี้ใส่สวย แต่ลืมไปว่า ตัวเรามีจุดบกพร่อง น้อยคนจะมีสรีระที่สมบูรณ์แบบ ขนาดนางแบบยังไม่เพอร์เฟกต์เลย ในเมื่อตัวเราไม่ใช่นางแบบ เราก็ต้องดูว่าเราผิดปกติตรงไหนบ้าง โดยเริ่มจากศีรษะก่อนว่าโตไหม สาเหตุของการที่ศีรษะดูโต เพราะไหล่เราเล็ก หน้าอกไม่มี วิธีแก้ที่จะทำให้ศีรษะไม่โต คือ สร้างดีเทล (detail) ของไหล่ขึ้นมาให้ชัดขึ้น หรืออาจจะไม่จำเป็นต้องไหล่ก็ได้ อาจจะสร้างดีเทลของหน้าอกให้ชัดขึ้น แล้วลิงค์จากดีเทลตรงนั้นไปถึงไหล่ ให้ความรู้สึกไปถึงไหล่ มันจะลดสัดส่วนของศีรษะให้บาลานซ์ (balance)"       
       นั่นคือการแก้ไขเจ้าสาวหัวโต แต่หน่มหน้มไซส์จิ๋ว ตรงกันข้ามหากหัวเล็ก ไหล่ใหญ่ อกบิ๊กบึ้ม ล่ะ       
       "กรณีเจ้าสาวที่ไหล่กว้าง หน้าอกใหญ่ หัวเล็ก เราต้องลดดีเทลของไหล่ หรือหันไปใส่เกาะอกเลย ส่วนหน้าอกก็ไม่ควรมีดีเทลมาก เพื่อจะลดบทบาทให้ดูไม่ใหญ่มาก"      
       พี่อุ๋ยบอกอีกว่า เจ้าสาวส่วนใหญ่มีปัญหาสะโพกเล็ก เราต้องดึงดีเทลไปที่สะโพก ง่ายๆ พี่อุ๋ย ให้ลองนึกสี่เหลี่ยมคางหมู ถ้าข้างบนกว้าง ข้างล่างสั้น ข้างบนจะยิ่งดูกว้าง แต่ถ้าเราดึงฐานล่างยาวลงมาเรื่อยๆ ข้างบนก็จะดูแคบลง       
       "ส่วนคนหัวเล็ก เราต้องมาโฟกัสที่ศีรษะ วิธีแก้คือ ต้องใส่ต่างหูให้ชัด อาจจะมวยผมตรงช่วงท้ายทอยแล้วนำดอกไม้มาติดให้ศีรษะเด่นชัด ซึ่งเป็นการแก้หัวเล็กได้"      
       ผู้หญิงทุกคนล้วนปรารถนาอยากมีหุ่นเป็นนาฬิกาทราย นั่นหมายความว่า ไหล่กับสะโพกต้องเท่ากัน นี่คือ สรีระที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน       
       "ไหล่เล็ก สะโพกใหญ่ เรียกว่า หุ่นพินโบว์ลิ่ง และหุ่นที่ไหล่ใหญ่ สะโพกเล็ก เรียกว่าตัวรางวัลออสการ์ คือไหล่ใหญ่ แต่ก้นกลับไม่มีเลย" นี่คือคำจำกัดความของหุ่นที่เรียกว่าผิดปกติ ไม่สมส่วนของพี่อุ๋ย แต่ทุกอย่างอำพรางได้      
       "หากไหล่เราชัด แต่สะโพกเล็ก ก็ทำให้สะโพกชัดซะ เช่นเดียวกัน ถ้าสะโพกชัด ไหล่ไม่ชัด ก็ทำให้ไหล่ชัดซะ เพื่อให้เกิดความบาลานซ์เป็นนาฬิกาทราย อันนี้เป็นหลักง่ายๆ ในการคิด เปรียบเทียบตัวเราก่อน แล้วเวลาไปเปิดนิตยสาร หนังสือเลือกชุด จะได้รู้ว่าอันนี้ไม่ได้ อันนี้ได้นะ เพื่อให้เกิดความคิดที่ถูกขึ้นมา แล้วเอาไปปรึกษาดีไซเนอร์ทำชุดอีกที"      
       พี่อุ๋ยให้ความรู้ถึงความสมดุลของสัดส่วนร่างกาย เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ระบุไว้เรียบร้อยแล้ว ว่า เริ่มจากศีรษะ คอ ไหล่ ข้อศอก เอว สะโพก ข้อศอก ท่อนขา แม้กระทั่งถึงช่วงระหว่างขา น่องไปถึงหัวเข่า หลังจากหัวเข่าไปถึงเท้า ต้องมีความบาลานซ์ ลองสังเกตตัวเองดูง่ายๆ ข้อศอกของเรา ตรงกับเอวพอดีหรือเปล่า หากเรายืนแล้วข้อศอกเราตรงกับเอว นั่นคือ ความสมส่วน
       "บางทีข้อศอกยาวกว่าเอว ซึ่งหาคนประเภทนี้ได้น้อย คนเหล่านี้คือคนไหล่ลาด ปัญหาจะเกิดถ้าสะโพกสูงเกินไป เขาเรียกว่า เอวสั้น ไหล่ลาด ลองสังเกตรูปร่างของคนเกาหลี ญี่ปุ่น หรือคนไทยบางคนที่มีเชื้อสายจีน ส่วนใหญ่จะเอวสั้น ดังนั้นจากเอวไปถึงต้นขาจะยาว"      
       พี่อุ๋ยแจงว่า วิธีการดูชุดเจ้าสาวให้สวย เราต้องให้คนอื่นมอง โดยมองผ่านๆ ตั้งแต่ช่วงศีรษะ คอ ไหล่ อก ข้อศอก เอว สะโพก แม้กระทั่งเท้า ต้องไม่มีช่วงไหนโดดเด่นขึ้นมา เรียกว่ามองปรื้ดเดียว! สวยสมดุลกันไปหมด อย่าให้อะไรลอยเด่นขึ้นมาอันใดอันหนึ่ง ชุดไหนก็ตามที่สมดุลตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า นั่นคือ การแต่งตัวที่ประสบความสำเร็จนั่นเอง  
  
ข้อคำนึงสาม เลือกสี เนื้อผ้า
       "เราต้องดูผิวของเจ้าสาวก่อนว่าควรใช้สีอะไร ส่วนใหญ่ที่พี่อุ๋ยใช้คือ สีงาช้าง กับชานอ้อย โดยพี่จะเน้นเฉพาะผ้าใยธรรมชาติ คือ ไหมไทยเท่านั้น เราจะเน้นเรื่องคุณภาพ หน้าผ้าให้กว้างกว่าปกติแล้วนำมาตัดเย็บ คือพยายามทำอะไรให้มันคลาสสิกเท่านั้นเอง      
       ส่วนเจ้าบ่าวก็มานั่งมองถึงความสมดุลระหว่างเจ้าบ่าวเจ้าสาว และสถานที่ ซึ่งสถานที่ก็เป็นสิ่งสำคัญ ต้องถามก่อนเลยว่ามองเห็นวิวข้างนอกหรือเปล่า ถ้าเป็นห้องบอลรูม ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา แต่บางโรงแรมมืด ยิ่งไปใส่สีดำก็ยิ่งกลืนมืดหายไปเลย บางโรงแรมฝาผนังเป็นสีเขียว ทุกคนในงานใส่สูทสีดำกันหมดเลย ยิ่งทำให้งานดูมืดสนิท แถมไฟก็ไม่แรงด้วยอีกต่างหาก"      
       พี่อุ๋ยยกตัวอย่าง งานแต่งสโมสรทหารเรือ วิวข้างนอกเป็นวัดพระแก้ว สวยสดงดงาม แต่ทุกคนใส่สูทสีดำ พอถ่ายรูปออกมาดูปุ้บ กลายเป็นกระสือกันลอยถ้วนหน้า ตัวมองไม่เห็นเลย ดังนั้นพี่อุ๋ยจึงแนะนำว่า หากเจอเคสสถานที่แบบนี้ให้ใส่สูทสีอ่อน หรือสีขาวไปเลยดีกว่า แต่หากเจ้าบ่าวเกิดหน้าไม่หล่อขั้นเทพ แต่ใฝ่ฝันอยากใส่สูทสีขาวงั้นคงต้องเครียดกันเบาๆหน่อยนะเพราะพี่อุ๋ยบอกว่า      
       "ข้อแม้ของสูทสีขาวคือ ถ้าผู้ชายไม่มีคิ้ว อย่าคิดจะใส่ และหากหน้าไม่หล่อ อย่าคิดใส่เด็ดขาด เพราะจะมีคนพูดเลยว่า "สูทหล่อ" อ้าว! ซะงั้น      
       "พี่อยากเน้นให้คนไทยใส่สีเทา สีเบส ให้ผู้ชายไทยใส่ เพราะผู้ชายไทยบางคนตัวผอม เล็ก ผิวดำ ใส่สีดำจะไม่ขึ้น ยิ่งหากใส่ชุดทักซิโด้ยิ่งไม่ขึ้นเข้าไปใหญ่"      
       ส่วนการเลือกผ้านั้นมีหลักง่ายๆ แค่..      
       "หากรูปร่างเล็ก ผอม ควรใส่ผ้าพื้นที่เรียบ อย่ามีดีเทลเยอะแยะมากมายจะยิ่งทำให้ผอมเข้าไปใหญ่ หากตัวใหญ่ใส่ผ้าที่มีเท็กเจอร์ หรือผ้าที่มีลวดลาย เช่น ลูกไม้ กระหน่ำใส่ดีเทลไปเยอะๆ เพื่อบั่นทอนความตัวใหญ่ เราต้องแชร์ระหว่างแต่ละส่วนให้ลงตัว"      
       พี่อุ๋ยห่วงการตัดสูทของชายไทย เผย 99% มือของผู้ชายไม่เท่ากัน      
       "มือขวาที่ถนัดมักจะยาวกว่ามือซ้าย ดังนั้นการซื้อสูทไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายเลย พี่เชื่อเลยถึงจะไปซื้อสูทพวกแบรนด์ดังมา แต่เขาก็คงไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดความยาวของช่วงแขนที่ไม่เท่ากันหรอก ยากนะทำอย่างไรให้แขนของสูทคุณดูบาลานซ์ ไม่ใช่ว่าแขนเสื้อข้างขวาลอยเต่อ แต่ข้างซ้ายเห็นนิ้วโผล่มานิดเดียว พี่จะคำนึงถึงตรงนี้มาก"       

ข้อคำนึงสี่ รูปทรงชุดเจ้าสาว
       เกิดคำถามว่า ชุดเจ้าสาวที่ทุกคนเห็นนั้นช่างสวยงามราวกับเจ้าหญิง เขาแบ่งประเภท รูปทรงกันอย่างไร รบกวนพี่อุ๋ยชี้แจง      
       "ดีไซเนอร์เขาจะใช้คำว่า “ยุค” แทนการเรียกรูปทรงของชุดเจ้าสาว โดยเราจะดึงจากภาพอดีตมา ในยุคที่ผ่านมาจะเป็นยุคของรูปทรงเอไลน์ บอลลูน เยอะแยะไปหมด หรือตอนนี้เราจะเห็นการต่อใต้อก แล้วปล่อยชายผ้าไปเลย ซึ่งจะเหมาะกับคนผอมพี่จะเรียกว่า "ยุคนโปเลียน" หากเป็นคอร์เซ็ท(Corsets)รัดติ้ว สำหรับคนที่อยากมีเอวจะเรียกว่า "ยุคเรเนซองส์" ส่วนทรงแบบต่อสะโพกแล้วย้วยๆ ข้างล่างเป็นผ้าระบาย คือ "ยุคสเปน" อีกทรงคือ "ยุคโซโล" จะมีเข็มขัดคาดตรงเอว เเล้วเป็นกระโปรงชั้นๆ ถี่ๆ สุดท้าย "ยุคกรีก" หรือโรมัน ยุคนี้จะเป็นเเขนกุด ไม่มีลูกไม้เลย จะมีเข็มขัดใต้อกแล้วปล่อยลงไปเลย พี่จะแนะนำให้ลูกค้าใส่ในเคสของการแต่งงานแบบเอาท์ดอร์ ชายทะเล หรือเป็นลักษณะที่ไม่แกรนด์มาก"       
       ดังนั้น พี่อุ๋ยจะไม่ถามถึงเรื่องรูปทรง แต่จะถามเจ้าสาวว่าจะใส่ยุคไหน และเลือกยุคนั้นมาตัดชุดให้เข้ากับรูปร่าง หรือหากเลือกเองไม่ได้ พี่อุ๋ยจะแนะนำว่าควรจะเป็นยุคไหน      
       "ลูกค้ามักชอบถามว่า ทำไมชุดพี่อุ๋ยเรียบ ดีเทลไม่เยอะ" เพราะอะไร มีอุ๋ยมีคำตอบในแบบศิลปินด้วยว่า      
       "ไม่ใช่ว่า ชุดเจ้าสาวแบบไหนฮิต ก็แห่ประโคมใส่กันไปหมด อย่างยุคโรมันฮิตก็โรมันหมด เราต้องให้ชุดของเราเป็นไฟนอล (Final)ไฟนอล คือระยะเวลาที่ผ่านไปแล้ว ทุกอย่างเข้ามาจบ ชื่นชอบ ณ แค่ตรงนี้ ยุคที่ผ่านมาจบที่เกาะอกเอไลน์ งั้นไฟนอลเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เจ้าสาวทุกคนจะจบที่เกาะอกเอไลน์หมด ไม่มีดีเทลอย่างอื่นเลย แล้วจะมาเริ่มนับคำว่ายุคนี้ใหม่ขึ้นมา       
       ดังนั้นจะใส่อะไรอย่าเพิ่งรีบร้อน ต้องคิดว่าเมื่อใส่แล้วอีก 4 ปีข้างหน้ามันต้องคลาสสิก มันต้องจบ เพราะคนใส่ทั่วโลก"      
       อ๋อ ถึงว่าชุดพี่อุ๋ยส่วนใหญ่ เน้น ความคลาสสิก เรียบ โก้ มีที่มาแบบนี้นี่เอง แต่ไม่ใช่ว่า พี่อุ๋ย จะเนรมิตชุดเจ้าสาวแบบเปรี้ยวเฉี่ยวไม่ได้ซะที่ไหนกันล่ะ      
       "ชุดสั้นพี่ก็เคยทำ ย้อนหลังไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว คือชุดสั้นยาวในตัวเดียวกัน แล้วก็แคบบานในตัวเดียวกัน 16 ปีที่แล้ว ค่อนข้างจะฮือฮามาก ตอนนั้นชุดเจ้าสาวในเมืองไทยแบบสั้นยังไม่มีใครทำ พี่อุ๋ยทำออกมาชุดข้างในเป็นเกาะอกสั้น ข้างนอกเป็นเสื้อคลุม เท่ากับว่าสั้นยาวในตัวเดียวกัน       
       พอตกดึกช่วงปาร์ตี้สนุกสนานเฮฮากับเพื่อนฝูง เจ้าสาวก็ดึงเสื้อคลุมชุดยาวข้างนอกออก เหลือเพียงเกาะอกสั้นข้างใน นี่คือการแอพพลายชุดเจ้าสาว แบบนี้จะเรียกว่า เป็นสเปเชียล ไม่ใช่แบบคลาสสิก แต่หากเจ้าสาวคนไหนอยากขอสไตล์เปรี้ยวๆ เพื่อการพรีเซนต์ในงานให้สนุกสนาน เซอร์ไพรส์แขกเหรื่อ พี่ก็ทำให้ได้"
     
ข้อคำนึงห้า เจ้าสาวอ้วน – ผอม
       รูปร่างไม่ใช่อุปสรรคในการใส่ชุดเจ้าสาว พี่อุ๋ยเสริมความมั่นใจแก่สาวเจ้าเนื้อว่า คนอ้วนอย่าแคร์ อะไรที่ดูแล้วผอมก็โชว์เลย                                      
       "ผู้หญิงบางคนช่วงบนค่อนข้างอ้วน แต่ขาไม่ใหญ่ เพราะกระดูกขาเล็ก โดยเฉพาะข้อเท้าเล็กต่างจากช่วงบน พี่แนะนำเลยว่า โชว์เลย อะไรที่โชว์แล้วดูผอมเชิญโชว์เลย แต่อะไรควรปิดก็ต้องปิด       
       จิตวิทยาในการทำให้ผอมคือ แบ่งเป็นส่วนๆ ให้มากที่สุด อย่างคนที่แผ่นหลังใหญ่ เราจะรู้สึกว่าตัวหนา อย่าไปปิดแผ่นหลังทั้งหมด เปิดแชร์ครึ่งๆเลย ให้เป็นตัววีลงมาเห็นช่วงเอวนิดเดียว ที่เหลือให้เป็นแผ่นเต็ม ซึ่งทำให้เห็นเป็นคอดเอวนิดเดียว เป็นการแบ่งระหว่างผิวหนังกับตัวผ้าให้แยกออกจากกัน แล้วเมื่อเห็นชุดโดยรวม จะดูผอมเพรียวไปเอง ความกลัวว่าจะหนาแล้วไปปิดยิ่งทำให้ตัวหนาเข้าไปใหญ่"      
       ผู้หญิงหลายคนเป็นโฟเบีย (phobia -อาการกลัว) เกาะอก!      
       "เขาอาจมีประสบการณ์การใส่เกาะอกซึ่งไม่ได้ออกแบบให้ลงตัวกับรูปร่างของหน้าอกและรักแร้ของเขา จึงทำให้ไม่กล้าใส่เกาะอก คนพวกนี้จะไม่ยอมใส่เลย เราต้องแก้โฟเบียให้ได้ โดยเราต้องเข้าใจว่า บางคนรักแร้ต่ำหน้าอกสูง บางคนรักแร้สูงหน้าอกต่ำ พวกลูกครึ่งหรือดาราฮอลลีวูดจะหน้าอกต่ำรักแร้สูง พวกนี้ใส่คอวีสวย แต่พอใส่เกาะอกปั้บมันจะตกลงมาเห็นเนื้อตรงรักแร้เยอะ เช่นเดียวกันกับคนรักแร้ต่ำ พอใส่เกาะอกเนื้อจะปลิ้นเลย พี่จะบอกเลยว่าให้ลืมการเป็นโฟเบีย ทุกคนใส่เกาะอกได้       
       ก่อนอื่นให้เข้าใจว่า รูปร่างของหน้าอกกับรักแร้อยู่ในลักษณะไหน เช่น คนหน้าอกเยอะ ร่องหน้าอกสวย คุณก็ใส่เป็นฮาล์ฟเชฟ (Half Shelf) จะดูหน้าอกไม่ใหญ่เกิน หากคนหน้าอกแบนเป็นไม้กระดานต้องใส่เกาะอกแบบโค้งขึ้นมาข้างบน เพื่อให้เกิดพื้นที่ของหน้าอกขึ้นมาทำให้ดูมีหน้าอกหน้าใจใหญ่ขึ้น รวมถึงหน้าอกปานกลาง แต่ไม่มีเนื้อช่วงบน ก็ใส่ที่เป็นโครงขึ้นมา แล้วมน ยกขึ้นนิดหนึ่งเพื่อให้แนบลงไปกับผิวหน้าอก หรือหากเป็นอกไก่ ต้องใส่เกาะอกแบบโค้งปิดให้แนบเต้าอย่างเดียวเลย ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าเกาะอกทุกคนใส่ได้หมด แม้จะมีหน้าอกหรือไม่มีก็ตาม แต่ต้องโชว์ให้ถูกวิธี "
       พี่อุ๋ยแอบบอกว่า เจ้าสาวอ้วนทำงานง่ายสุด แค่ทำให้เขามี “เอว” เท่านั้นเขาก็ดีใจแล้ว เพราะคอร์เซ็ท เป็นสิ่งอภินิหารมาก เสกเอวให้เล็กกิ่วได้ในพริบตาเดียว      
       "เจ้าสาวอ้วนจะมีไหล่เป็นฐาน สะโพกเป็นทุน ทำให้เขามีเอวปั้บ ความเป็นนาฬิกาทรายก็จะเกิดขึ้น แค่ใช้คอร์เซ็ทรัดเอวขึ้นมาก็จบ แต่ถ้าอ้วนจนไม่อยากจะโชว์รูปร่าง พี่บอกเลยว่า ขอให้สวยแบบปลาทอง คือ ปลาทองอ้วนกลม แต่จำเป็นต้องมีครีบ มีวุ้นกรุยกราย เราไม่ต้องโชว์รูปร่างเลย แต่ใส่ชุดให้ดูกรุยกราย พวกผ้าชีฟองทั้งหลายแหล่ หากคนผอมใส่ชุดกรุยกรายก็เปรียบเป็นปลาหางนกยูง ซึ่งสวยสู้ปลาทองไม่ได้ใช่ไหม      
       ดังนั้นเราต้องภูมิใจในความสวยของตนเอง คนอื่นอยากสวยแบบเราสวยไม่ได้" พี่อุ๋ยให้กำลังใจคนเจ้าเนื้อ อย่าไปแคร์ค่ะ ถึงจะอ้วนกลมดิ๊กแต่ก็สวยแบบปลาทองหัววุ้น ว่ายน้ำครีบกรุยกรายไปมาอย่างเฉิดฉาย      
       "ส่วนคนผอมมาก ประเภทแบนทุกส่วน ไม่เห็นรูปร่างเลย พี่จะแนะนำให้ต่อใต้อกใส่แบบยุคนโปเลียน ดังนั้นคนที่ค่อนข้างเจ้าเนื้อ หรือคนหุ่นดีมาใส่ ก็อาจจะดูเหมือนอ้วน หรือดูเหมือนท้องได้ คิดอย่างเดียวเหมือนคนอ้วน คนอื่นอยากสวยก็สวยเหมือนเราไม่ได้ " พี่อุ๋ยสร้างความภูมิใจให้คนผอมบางร่างน้อยเช่นกัน 
   
คำนึงสุดท้าย ต่างหู สร้อยคอ
      “พี่จะห่วงเรื่องต่างหู ผู้หญิงหลายคนไม่รู้ตัวเองว่า ตัวเองควรจะใส่แบบไหน คนที่มีรูปหน้าไข่ชัดเจน โครงหน้าบาลานซ์ใส่อย่างไรก็ได้ สวยหมด แต่บางคนคางไม่มี คางป้าน คางสั้น จำไว้เลย ต่างหูห้ามยาวกว่าริมฝีปากล่าง และต่างหูห้อยยาวระย้า เพราะจะทำให้คางสั้นขึ้นไปอีก ซึ่งการเลือกต่างหูนั้นเป็นตัวแก้เรื่องโครงหน้าได้ดี ”       
       ไม่เพียงแต่ต่างหูเท่านั้น ที่เจ้าสาวต้องคำนึงว่าแบบไหนเหมาะ สร้อยคอ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจ      
       “ส่วนเรื่องสร้อยนั้นสำคัญไม่แพ้ต่างหู คนส่วนใหญ่กราม คางจะไม่เท่ากัน แม้ว่าช่างแต่งหน้าพยายามเฉดดิ้งแล้วเฉดดิ้งอีก แต่หากเอาสร้อยมาประโคมใส่ช่วงคอ จะช่วยเน้นคางที่สั้น ให้สั้นขึ้นมาอีก เลี่ยงไม่ใส่ได้เลยยิ่งดี”
      
       พี่อุ๋ย จบข้อคำนึงสุดท้ายโดยทิ้งรายละเอียดสารพัดประโยชน์ทุกบรรทัดอย่างอื้อซ่า!ให้แก่ว่าที่เจ้าสาว หรือแม้แต่พวกสาวโสดไร้คู่ก็เก็บบทความนี้ไว้เป็นคลังความรู้สะสมไว้ก่อนรออวดของแก่เจ้าบ่าวในอนาคตได้นะจ๊ะ!
       ยังไม่จบ! แต่เพียงเท่านี้หรอกค่ะสำหรับการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว นอกจากเตรียมตัวเองให้สวยสุดชีวิตแล้ว ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องตระเตรียมอีก
       สัปดาห์หน้าพบกับเรื่องราวการถ่ายรูป Pre Wedding ที่ฮิตสุดๆ เรียกว่าแทบทุกคู่บ่าวสาวล้วนยินยอมพร้อมใจจ่ายค่าแพกเกจ เสียเวลาเป็นวัน เพื่อเป็นนายแบบนางแบบครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิต      
       เราจึงไปติดตามสืบหาช่างภาพสตูดิโอสุดเจ๋งมาคุยเผยเบื้องลึกเบื้องหลัง ที่ทุกคู่บ่าวสาวควรต้องรู้ก่อนรูดการ์ดซื้อแพกเกจแห่งความทรงจำนี้ อย่าลืมพบกันที่นี่นะจ๊ะ จุ๊บ จุ๊บ


ขอบคุณข้อมูล www.manager.co.th/CelebOnline