คู่รักอมตะ แบบอย่างการใช้ชีวิตคู่ของคนบันเทิง
กลิ่นอายแห่งความรักเริ่มหอมหวานและอบอวล...เมื่อใกล้เข้าสู่เทศกาลวันวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก
วันที่ 10 ก.พ. 2555

   คู่รักต้นแบบของวงการบันเทิง ที่ถูกขนานนามว่าเป็น ''คู่รักอมตะ'' ได้แก่ คู่สามี-ภรรยา ที่ทุกท่านรู้จักกันดี โดยเราจะนำหลักในการครองคู่รวมถึงเรื่องราวความรักในแง่มุมหวานๆ ของคู่รักอมตะที่มีให้กันไม่เสื่อมหลายมาให้ได้ร่วมดื่มด่ำกัน 

คู่แรก ได้แก่ เศรษฐา-อรัญญา (เข้าใจและให้เกียรติ...รักยืนยงกว่า 33 ปี)

คู่รักอมตะ แบบอย่างการใช้ชีวิตคู่ของคนบันเทิง (เศรษฐา-อรัญญา) เข้าใจและให้เกียรติ...รักยืนยงกว่า 33 ปี

         หากให้ยกตัวอย่างคู่รักอมตะหลายคนจะต้องนึกถึง ''อาต้อย'' เศรษฐา ศิระฉายา และ ''อาเปี๊ยก'' อรัญญา นามวงศ์ ด้วยภาพความรักความห่วงหาที่ทั้งสองมีให้กันเวลาออกงานหรือเห็นผ่านตามสื่อ ทำให้หลายคนต้องยิ้มตามทุกครั้ง วันนี้ อาต้อย-อาเปี๊ยก ใช้ชีวิตร่วมกันมานาวนานถึง 33 ปีแล้ว โดยมีโซ่ทองคล้องใจคือลูกสาวคนเก่ง ''อีฟ-พุทธิดา'' 

          จุดเริ่มต้นของความรัก ทั้งสองต่างรู้จักกันดีว่า ''อาต้อย'' คือนักร้องหนุ่มวง  ''ดิ อิมพอสซิเบิ้ล'' และ อาเปี๊ยก คือรองนางสาวไทยและนางเอกชื่อดัง  ทั้งสองต่างก็เป็นแฟนคลับของกันและกัน ชื่นชมผลงานของแต่ละคนอยู่ห่างๆ จนกระทั่งทั้งสองมีโอกาสได้มาทำงานร่วมกันในภาพยนตร์เรื่อง ''ชื่นรัก'' ขณะนั้น ''อาต้อย'' แยกจากครอบครัวเก่าแล้ว เมื่อมีโอกาสได้มาใกล้ชิดอาเปี๊ยกเลยเกิดความสนิทสนม เพื่อนๆ ของอาต้อยเองต่างก็ยุให้จีบอาเปี๊ยก แต่อาต้อยของเราเองก็ยังไม่กล้าคิด และบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่าตนเองนั้นต่ำต้อยกว่าอาเปี๊ยกมาก

เศรษฐา :  เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างมีเกียรติมากกว่า ครอบครัวก็ดีกว่า ต่างจากผมที่ครอบครัวค่อนข้างจะจน หาเช้ากินค่ำ คุณพ่อผมเสียตั้งแต่เด็ก ผมทำงานหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่เด็กอายุ 13-14 เพื่อนๆ ก็บอก เฮ้ย! จีบเลยสิวะ ผมก็บอกว่าอยากจะจีบนะ แต่คิดว่ายาก แต่ว่าพอไปอยู่กองถ่ายต่างจังหวัดด้วยกันเป็นเดือน ก็น่าจะเป็นความใกล้ชิด อยู่ด้วยกันทุกวัน กินข้าวด้วยกัน ความใกล้ชิดสนิทสนมทำให้เกิดเห็นใจซึ่งกันและกัน ถามว่าอะไรที่คิดว่าทำให้ชนะใจเขา ผมว่าตัวผมไม่มีอะไรเลยจริงๆ นอกจากความเป็นตัวของตัวเอง เขาก็บอกว่าเวลาคุยด้วยแล้วสบายใจ เราก็พูดในสิ่งที่สนุกสนาน ไม่มีความเครียด พูดเล่นพูดหัวไปวันๆ เขาถึงได้บอกว่าตั้งแต่ไหนแต่ไหนมา ผมว่าคนที่เป็นคนสนุก แล้วมีนิสัยร่าเริงแจ่มใสมักจะมีแฟนสวยทั้งนั้น

อรัญญา : คุณต้อยเขาเป็นคนอารมณ์ดี เราคิดว่าเขารักความก้าวหน้า ขยันทำงานตลอด และรักครอบครัว ห่วงใยดูแลเราอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง  ตัวเขาเองดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว อยากให้เขาดูแลสุขภาพให้เสมอต้นเสมอปลายตลอดไป เพราะว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นอกจากนั้นเรื่องงานอะไรก็อยากให้มันเบาลง พักผ่อนตัวเองบ้างค่ะ

เศรษฐา : เราก็ห่วงเรื่องสุขภาพเขานั่นแหละ ที่ผ่านมาเราถกเถียงกันมาหลายครั้งว่า ผมอยากจะตายก่อน อยากฝากให้เขาดูลูก เขาก็บอกว่าเขาต้องตายก่อนให้เราดูลูก ก็ยังถกเถียงกันอยู่ไม่จบ มันเป็นเรื่องปัญหาโลกแตก ในที่สุดถึงวันก็จะรู้เองว่าใครจะต้องไปก่อนกัน ถ้าจะถามถึงอายุก็ใกล้ๆ เข้ามาแล้วล่ะ สิ่งที่ดีที่สุดคือเตรียมตัวให้พร้อมและทำยังไงจะยืดชีวิตให้ยาวที่สุดเพื่อที่จะได้อยู่กับลูกและครอบครัวไปนานๆ

หลักในการครองคู่ของ ''อาต้อย-อาเปี๊ยก'' คือ ให้เกียรติ เข้าใจ และไว้ใจ

อรัญญา : ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราอยู่ด้วยกันมีอะไรก็คุยกันได้ หรือถ้าคุยไม่ได้ก็ต้องหยุดคุยสักพัก ต้องพยายามปรับพยายามจูน เพราะคนเรามาจากคนละครอบครัว ไม่ได้ว่าเหมือนกันทุกอย่าง ต้องมาปรับทั้งนั้น จะด้วยสภาวะแวดล้อม จะด้วยสถานภาพหรืออะไรก็ตาม  สิ่งเหล่านี้แหละที่ต้องรู้ว่าจะปรับตัวยังไง

เศรษฐา  :   ต้องคุยกันเข้าใจอย่างที่บอก ถ้ามัวมานั่งคิดมาก คุณไปกินข้าวกับคนนั้นคนนี้ อย่างนี้ทะเลาะกันตาย แต่ว่าบังเอิญเรามีอาชีพเดียวกันเลยเข้าใจ ถ้าเป็นคนขี้หึง มีจิตใจไม่มั่นคง ไม่ให้เกียรติ ไม่เชื่อถือซึ่งกันและกัน มันก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ตรงนี้ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เรารู้ว่าแต่ละวันที่ออกไปทำงานต้องทำอะไรบ้าง เลยทำให้เข้าใจกันง่ายขึ้น

สุดท้าย อาต้อย ยังได้ฝากข้อความหวานๆ ถึงภรรยาสุดที่รักด้วย 

เศรษฐา  : อยากจะบอกว่าขอบคุณที่เชื่อมั่นและตัดสินใจแต่งงานกับผมเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นภรรยาที่ดีมาตลอด ที่สำคัญมีลูกที่ดีให้กับผม ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้มาเป็นครอบครัวเดียวกัน ถือว่าเป็นเกียรติ ภาคภูมิใจว่าเราก็มีเมียสวยๆ กับเขาเหมือนกัน

คู่ที่สอง ได้แก่ สุประวัติ-นีรนุช (สติและความเข้าใจ หลักครองรัก)

คู่รักอมตะ แบบอย่างการใช้ชีวิตคู่ของคนบันเทิง สุประวัติ-นีรนุช (สติและความเข้าใจ หลักครองรัก)

          ''สุประวัติ-นีรนุช ปัทมสูต'' สองสามี-ภรรยานักแสดงอาวุโสหรือที่คนในวงการเรียกท่านทั้งสองว่า ''พ่ออี๊ด-แม่นุช''  ท่านใช้ชีวิตร่วมกันมา 40  กว่าปีแล้ว

         ความรักของทั้งสองเริ่มสานสัมพันธ์มาจาก ''ละครดึกดำบรรพ์'' ที่ทั้งสองต้องร้องและรำร่วมกัน สมัยนั้น แม่นุช ยังเป็นนักศึกษา ส่วนพ่ออี๊ดก็เป็นพ่อม่าย แม่นุชบอกว่าพ่ออี๊ดไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อต้องตาต้องใจเลย เรียกว่าไม่ตรงสเปกสักอย่าง แต่สิ่งที่ทำให้ทึ่งคือ ความสามารถที่หลากหลายของพ่ออี๊ดนั่นเอง ทางฝั่งพ่ออี๊ดก็เช่นกัน บอกว่าแม่นุชนั้นความสวยเป็นเรื่องรอง แต่ชื่นชอบเพราะเป็นคนเก่ง

สุประวัติ : ผมชอบผู้หญิงเก่ง หลายคนคงเชื่อว่าคุณนีรนุชเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการทำงาน การพูด ด้านศิลปวัฒนธรรม ที่ชอบเขาคือแปลกที่เขาเป็นคนเก่ง เป็นคนสวยพอประมาณ แต่สามารถร้องเพลงไทยเดิมได้  ตอนแรกเราแปลกใจว่าทำไมเขาทำอย่างนี้ได้ แต่จริงๆ แล้วผู้หญิงไทยควรจะทำแบบนี้ได้ แต่มันไม่มีไง เลยดูเป็นของแปลก เด็กผู้หญิงที่จะรำได้ร้องได้อย่างเขาหายาก

นีรนุช : คือตอนคบกันน่ะ หน้าตานี่ไม่เท่าไหร่หรอก จะบอกว่าพ่อเนี่ยยิ่งอายุมาก จะยิ่งดูดีกว่าตอนหนุ่มๆ มาก เพราะตอนที่จีบก็ไม่ได้รู้สึกว่าหล่อ แต่เขามีเสน่ห์  รู้สึกว่าคนนี้เก่งนะ รำละครได้  ร้องเพลงไทยเดิมได้ แต่เวลาเขาเล่นละครโบราณ ทีท่าจะมีความเป็นธรรมชาติมาก รู้สึกทึ่ง ณ ส่วนนี้ก่อน 

เรื่องเซอร์ไพรส์ในวันวาเลนไทน์สมัยจีบกันใหม่ๆ

สุประวัติ : มีอยู่ครั้งหนึ่งวันวาเลนไทน์ผมก็ฝากคนให้เอาดอกกุหลาบแอบไปวางไว้บนโต๊ะที่ทำงานเขา คือต้องบอกก่อนว่าที่ทำงานของคุณนีรนุชเข้ายากและออกยากมาก แต่ก็สามารถที่จะเอาดอกไม้เข้าไปวางไว้ได้

นีรนุช : จริงๆ ตอนเย็นเรานัดกันอยู่แล้ว แต่ตอนกลางวันไม่รู้มีไอ้หนุ่มที่ไหน ถือแจกันมาหาแล้วมาถามว่า คุณนีรนุชอยู่ตรงไหน เขารู้กันทั่วหมดเลยว่ามีคนเอาดอกไม้มาให้นีรนุช เขาฝากคนมาให้เซอร์ไพรส์เราแบบนั้น สมัยจีบกันใหม่ๆ เขาจะค่อนข้างโรแมนติก จะมีโน่นมีนี่มาให้ตลอดแหละค่ะ

เคล็ดลับความรักแข็งแรง ตามปรัชญาของ ''คาริล ยิบราน'' เช่น  ''จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง แต่ขอให้แต่ละคนได้มีโอกาสอยู่โดดเดี่ยว ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน...''

สุประวัติ : สำหรับผมก็คือว่า อย่าไปเชื่อว่าความรักมันอยู่ด้วยความหวานแหววตลอดไป อยากให้ดูความจริงว่า คนเรามันก็มีไม่เข้าใจกันบ้าง ต้องใช้สติและความเข้าใจ หรือการมองดูให้ดีถึงความตั้งใจของอีกคนว่า จริงๆ แล้วเขาต้องการอย่างนั้นหรือเปล่า เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า มีสติให้ดี จริงๆ นะ ความรักมันไม่ต้องบอก ต้องแสดงออกเฉพาะวันวาเลนไทน์หรอก แค่เอา 24  ชม.ไปหารลง 365 วันให้มันเกิดความรัก มันก็จะมีความสุขทั้ง 365 วัน แต่วาเลนไทน์มันจำเป็นต้องมี ให้คนได้สำนึกว่า ไม่ใช่แค่วันเดียวที่คุณจะทำความรักได้

นีรนุช   : ความรักต้องใช้คำว่าเข้าใจ สิ่งที่คนเราทำทุกวันนี้ ก็เพื่อต้องการให้เราและคนที่เรารักมีความสุข ถ้าเราเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร คนแต่ละคนมีจุดมุ่งหมายที่ต่างกัน ถ้าเข้าใจสิ่งที่เขาทำ ว่าทำสิ่งนี้ไปเพราะเขามีเหตุผล สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มแต่งงาน หรือเพิ่งมีคู่ เชื่อว่าสิ่งที่เรากำลังจะพูดตรงนี้จะช่วยได้ เพราะว่าตอนที่แต่งงานใหม่ๆ จะใช้ข้อปรัชญาจากหนังสือปรัชญาชีวิต ของ คาริล ยิบราน ที่บอกว่า  เสาของวิหารจะต้องตั้งอยู่ห่างกัน มันถึงจะอยู่ได้ ถ้าตั้งชิดกันวิหารก็จะโงนเงนและก็ล้ม นั่นหมายถึงระยะห่างของคู่ ทุกคนต้องมีระยะห่างที่ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง แล้วก็เข้าใจ ถ้าถือตามหลักของธรรมะพระพุทธศาสนา

คู่ที่สาม ได้แก่ สมบัติ-กาญจนา (กับรักหวาน 53 ปี)

คู่รักอมตะ แบบอย่างการใช้ชีวิตคู่ของคนบันเทิง สมบัติ-กาญจนา (กับรักหวาน 53 ปี)

          ตามมาด้วยคู่ของอดีตพระเอกชื่อดัง  สมบัติ เมทะนี และศรีภรรยา กาญจนา เมทะนี  หรือ ''อาแอ๊ด-แม่ตุ๊'' ทั้งสองใช้ชีวิตคู่กันมายาวนานถึง 53 ปี และความสวีตก็ดูจะไม่ลดน้อยถอยลงเลย ทั้งสองยังห่วงหาและควงคู่กันออกงานตัวติดเป็นปาท่องโป๋เหมือนอย่างเช่นวันวาน

           ความรักของทั้งสองเหมือนถูกฟ้าลิขิตมาทั้งคู่อยู่อาศัยในละแวกบ้านเดียวกัน จึงได้คบหากันตั้งแต่วัยเยาว์ โดยน้องสาวอาแอ๊ดเป็นเพื่อนของแม่ตุ๊ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ความผูกพันดังกล่าวกลายเป็นรักซึมลึก ว่าทั้งสองมีนิสัยที่เหมือนกันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การฟังเพลง ดูหนังแนวเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรหากจะได้มีการแลกเปลี่ยนทัศนคติและมุมมองตามประสาคอเดียวกัน  จนกลายเป็นความซี้ปึ้กกันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทั้งสองตัดสินใจเข้าสู่ประตูวิวาห์ด้วยวัยอันน้อยนิด ฝ่ายชายอายุ 23 ปี  ฝ่ายหญิงอายุย่าง 18 ปี

          แต่เรื่องวัยไม่ใช่ปัญหาของการครองรัก เพราะท่านทั้งสองยึดหลักความเข้าใจ ให้เกียรติ อดทน นั่นก็คือแม้เมื่อฝ่ายสามีก้าวเข้าสู่การเป็นพระเอกดังที่ต้องปกปิดการมีครอบครัว แต่ทั้งสองก็เข้าใจกัน โชคดีที่พอความลับแตก แฟนๆ ก็ยังรักอาแอ๊ดเป็นพระเอกในดวงใจเหมือนเดิม 

สมบัติ : เรารักกันมา 50 กว่าปีไม่เคยทะเลาะกันเลย  อาจจะมีการหยอกล้อกันบ้าง แต่เป็นเรื่องสนุกๆ คือต่างฝ่ายต่างรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี ผมถือหลักที่ว่า เมียเอาชนะแม่ เมียผิด...แม่เอาชนะเมียไม่ค่อยดี เมียเอาชนะเพื่อน เฮ้อ...อึดอัด...เพื่อนเอาชนะเมียไม่ได้อีก ผู้ชายเพื่อน เมีย แม่ เป็นความรักที่ให้กันคนละอย่าง  อย่าเอาชนะกัน เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเราจะอึดอัด ทุกคนก็จะวุ่นวาย

การใช้ชีวิตคู่ให้อยู่ด้วยกันยาวนาน  มีความสุขน่ะไม่ใช่ของยาก  แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความอดทน ความเข้าใจซึ่งกันและกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา ต้องมาอันดับหนึ่ง คือก่อนที่จะพูดเราต้องคิดว่าถ้าเขาพูดกับเราบ้างเราจะทำใจได้ไหม สะเทือนใจไหม อย่าปากพล่อย ส่วนที่ว่าตลอดเวลาที่อยู่กันมามีไขว้เขวหรือนอกลู่นอกทางมั้ย ไม่หรอก

กาญจนา :  เราไม่มีการตั้งกฎ กติกา มารยาท แต่จะมีนิดหนึ่งว่า ถ้าไม่ทานข้าวช่วยโทร.มาบอกด้วยจะได้ไม่ต้องรอ ส่วนคนที่เป็นภรรยาขอให้รับทราบไว้เลยว่า ผู้ชายทุกคนเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อน เมียอย่ามาใหญ่

  อีกสิ่งหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นว่า อาแอ๊ดและแม่ตุ๊ เป็นคู่รักที่อมตะก็คือ ณ วันนี้แม้เวลาผ่านไปห้าสิบปี แต่ทั้งคู่ยังคงเติมความหวาน โดยในทุกวันเกิดและวันสำคัญต่างคนต่างก็มีของขวัญมอบให้กัน อาทิ การ์ด, ดอกไม้ ในขณะเดียวกันถ้าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ก็พยายามเสาะหาสิ่งนั้นมามอบให้ และยังมีการบอกรัก นั่งตัก หอมแก้ม เป็นหัวใจ กำลังใจของกันและกัน  เวลาหลับต้องจับมือกันตลอด เรียกว่าแม้จะผ่านไปสักร้อยปี ความหวานก็ไม่มีจางเลยทีเดียว

คู่สุดท้าย ได้แก่ รอง-ปทุมวดี (รักบนความเอื้ออาทร)

คู่รักอมตะ แบบอย่างการใช้ชีวิตคู่ของคนบันเทิง รอง-ปทุมวดี (รักบนความเอื้ออาทร)

         ''รอง เค้ามูลคดี'' และ ''ปทุมวดี โสภาพรรณ'' หรือ ''พ่อรอง-แม่ทุม'' นักแสดงอาวุโสที่เป็นคู่ชีวิตยืนยง ชนิดที่หากเห็นหน้าพ่อรองที่ไหน ผู้คนก็ต้องถามหาแม่ทุมที่นั่น เบื้องหลังชีวิตคู่ของทั้งสองเรียกว่าเข้มข้นพอสมควร พ่อรองและแม่ทุมเริ่มต้นคบกันแบบเพื่อน ตอนนั้นแม่ทุมทำงานร้องเพลง ส่วนพ่อรองทำงานอยู่ที่ช่อง 4 บางขุนพรหม ทั้งสองเริ่มสนิทสนมคุยกันถูกคอเข้าใจ จนพ่อรองขอแม่ทุมแต่งงาน  แต่กว่าจะมีลูกก็ใช้ชีวิตคู่อยู่หลายปีเหมือนกัน เพราะทั้งสองต่างฝ่ายต่างสนุกกับงานการ จนเริ่มมีปัญหาเข้ามาในชีวิตคู่หลายอย่างแต่ทั้งสองก็ผ่านมันไปได้

รอง  :  คนเราจะอยู่กันยืด มันต้องมีความเกรงใจซึ่งกันและกัน ตั้งสติให้ดี ก่อนที่เราจะมีอะไรต่อกัน ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน  พ่อยอมรับว่าพ่อเป็นคนเจ้าชู้มากๆ  เจ้าชู้มหาศาลเลย ถึงพ่อจะมีกิ๊ก แต่ทุกคนไม่มีสิทธิ์ ไม่ต้องมาเรียกร้อง เอาแค่มาแตะลูกกับเมียก็ทางใครทางมันอยู่แล้ว

ปทุมวดี  : ตรงจุดนี้เองที่ทำให้แม่อยู่ได้ เพราะไม่เคยมีใครมาละลานแม่  อีกอย่างคือแม่มีสิ่งแวดล้อม มีหลายๆ อย่างที่คอยให้กำลังใจ คอยให้สติ คอยปลอบบอกแม่ไม่เอานะ อย่าไปทำอะไรนะ คือเรามีลูกหลานที่คอยปลอบ คอยให้สติเรา เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่ทำให้แม่กังวัลกับพ่อมากเกินไป

รอง : แต่แม่เค้าจะรู้ ลูกๆ ทุกคนรู้ว่าพ่อเนี่ยเป็นคนที่มีที่สุด หนึ่งคือเจ้าชู้ที่สุด และสองคือรักครอบครัวที่สุด ทีนี้เราต้องมานั่งชั่งน้ำหนัก ต้องมาหักล้างกันแล้วว่า ระหว่างคนคนเดียวกับนี่ 4-5 คนจะเอายังไง อยู่กันมา 44 ปี  แม่ไม่เคยสร้างปัญหา ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ พ่อเป็นผู้สร้างแต่เพียงผู้เดียว แต่ก็ถือซะว่าเป็นกรรมที่ชาตินี้เราต้องชดใช้เขาให้หมด ถึงเราจะไม่ได้มีเงินมีทองมากมายแต่เราก็มีความสุขและความอบอุ่น ความรักเอื้ออาทร

ปทุมวดี  : ทุกวันนี้ทุกคนในครอบครัวจะอยู่กันเหมือนเพื่อน เราสองคนไม่ได้ห่วงตัวเอง แต่เรามีความรักและความเอื้ออาทรให้กับทุกคน  การที่เราจะมีครอบครัวที่มีความสุข ทั้งสองฝ่ายต้องปรับตัวเข้าหากันตลอด ไม่ใช่ต้องอยู่แบบทนอด หรืออดทน เราต้องมีผ่อนหนักผ่อนเบา

พ่อรอง : คนเราเกิดมาก็ต้องมีทั้งสุขและทุกข์ โดยเฉพาะชีวิตคู่ ถ้าเราไม่หย่าขาด หรือเลิกกันไป ซักวันเราก็ต้องตายจากร้างรากันอยู่ดี สมมุติว่าวันหนึ่งไม่มีพ่อแล้ว แม่ก็ต้องตั้งสติให้ดี และดูแลลูกให้ดีที่สุด ต้องเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ให้ได้ พ่อก็เหมือนกันถ้าวันหนึ่งแม่ไม่อยู่ พ่อยิ่งต้องตั้งสติมากที่สุด อย่าหาเวรหากรรมมาให้ลูก ดูแลครอบครัวให้ดีที่สุด เมื่อเสียคนที่ดีที่สุดไปแล้ว ยังไงก็หาไม่ได้อีกแล้ว เราต้องทำทุกอย่างเพื่อลูก ทุกวันนี้อยู่มาจนถึง 60 กว่าแล้วพ่อถือว่าได้กำไรแล้ว  พ่อพูดได้เลยว่าในชีวิตพ่อทำผิดมาหลายเรื่อง ทำผิดมาตลอด แต่มีอยู่อย่างเดียวที่พ่อทำถูกก็คือการที่พ่อเลือกแม่มาเป็นคู่ชีวิต ทุกวันนี้เราไม่ได้มีความสุขมาก แต่เรามีความสุขที่สุด ลูกเป็นคนดี เมียดีอยู่แล้ว คนรอบข้างก็ดี แล้วชีวิตนี้ยังต้องการอะไรอีก

 

ขอขอบคุณ www.siamdara.com
จำนวนคนอ่าน 6280 คน
 
ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องกัน
Topics 10161 - 1907 of 1907
The Banquet Hall at Nathong
The Banquet Hall at Nathong
เดอะ แบงเควท ฮอลล์ แอท นาทอง สถานที่จัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ออกแบบสถาปนิกผู้ออกแบบโรงแรมชั้นนำทั่วทวี...
Sophia Studio สตูดิโอแต่งงาน ลำสาลี,กรุงเทพ
Sophia Studio สตูดิโอแต่งงาน ลำสาลี,กรุงเทพ
แพ็คเก็จถ่ายภาพราคาถูก แพ็คเก็จถ่ายภาพให้ไฟล์หมด ตัด-เช่าชุดแต่งงานราคาถูก ตัด-เช่าชุดไทยราคาถูก ตัด-เช่าชุดอิสลาม ตัด-เ...
SASI Nonthaburi Hotel
SASI Nonthaburi Hotel
โรงแรมศศิ นนทบุรี [สถานที่จัดเลี้ยงแต่งงาน นนทบุรี] บริการห้องจัดเลี้ยงแต่งงาน เป็นสถานที่จัดเลี้ยงแต่งงาน ในบรรยากาศร่...
เรือนภิรมย์ ปทุมธานี
เรือนภิรมย์ ปทุมธานี
เรือนภิรมย์ รับจัดงานแต่งงาน พิธีเช้าแบบไทยๆ เรือนภิรมย์ ปทุมธานี สถานที่จัดงานแต่งงานแบบไทยๆ พร้อมบรรยากาศบ้านสวนร่มรื...
Miracle of love wedding sriracha
Miracle of love wedding sriracha
Miracle of love wedding sriracha ครบทุกเรื่องงานวิวาห์ แพ็คเกจถ่ายพรีเวดดิ้ง แพ็คเกจจัดงานแต่งงาน , ให้เช่าชุดแต่งงาน ชุ...
วังวิวาห์ สี่แยกบ้านสวน สุโขทัย
วังวิวาห์ สี่แยกบ้านสวน สุโขทัย
วังวิวาห์ สี่แยกบ้านสวน สุโขทัย บริการให้คำปรึกษาจากสไตล์ลิสต์มืออาชีพ ช่างแต่งหน้า และทีมงานออแกไนซ์ที่มีประสบการณ์ยาว...
A Rich Wedding Pattaya
A Rich Wedding Pattaya
เอริช เวดดิ้ง สตูดิโอพัทยา รับจัดงานแต่งงานครบวงจร ถ่ายภาพ ชลบุรี ถ่ายรูปแต่งงาน พรีเวดดิ้ง ในและนอกสถานที่ บริการเช่าชุ...
เพราะรัก เวดดิ้ง สตูดิโอ สระบุรี
เพราะรัก เวดดิ้ง สตูดิโอ สระบุรี
เพราะรัก เวดดิ้ง สตูดิโอ สระบุรี สุดยอดการแต่ง - ทำผม ระดับต้นของประเทศไทย บริการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ทั้งในสตูดิโอและนอก...
 
footer
Wedding Directory

Follow Us :
CONTACT US
ติดต่อลงโฆษณา Tel: 08 4117 5005, 08 9128 5005, 08 4871 2132
Email: weddinginlove.com@gmail.com , info@weddinginlove.com
LINE ID: wedinloveth
เพิ่มเพื่อน

Copyright@2017 www.weddinginlove.com. All Right Reserved.