หากให้ยกตัวอย่างคู่รักอมตะหลายคนจะต้องนึกถึง ''อาต้อย'' เศรษฐา ศิระฉายา และ ''อาเปี๊ยก'' อรัญญา นามวงศ์ ด้วยภาพความรักความห่วงหาที่ทั้งสองมีให้กันเวลาออกงานหรือเห็นผ่านตามสื่อ ทำให้หลายคนต้องยิ้มตามทุกครั้ง วันนี้ อาต้อย-อาเปี๊ยก ใช้ชีวิตร่วมกันมานาวนานถึง 33 ปีแล้ว โดยมีโซ่ทองคล้องใจคือลูกสาวคนเก่ง ''อีฟ-พุทธิดา''
จุดเริ่มต้นของความรัก ทั้งสองต่างรู้จักกันดีว่า ''อาต้อย'' คือนักร้องหนุ่มวง ''ดิ อิมพอสซิเบิ้ล'' และ อาเปี๊ยก คือรองนางสาวไทยและนางเอกชื่อดัง ทั้งสองต่างก็เป็นแฟนคลับของกันและกัน ชื่นชมผลงานของแต่ละคนอยู่ห่างๆ จนกระทั่งทั้งสองมีโอกาสได้มาทำงานร่วมกันในภาพยนตร์เรื่อง ''ชื่นรัก'' ขณะนั้น ''อาต้อย'' แยกจากครอบครัวเก่าแล้ว เมื่อมีโอกาสได้มาใกล้ชิดอาเปี๊ยกเลยเกิดความสนิทสนม เพื่อนๆ ของอาต้อยเองต่างก็ยุให้จีบอาเปี๊ยก แต่อาต้อยของเราเองก็ยังไม่กล้าคิด และบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่าตนเองนั้นต่ำต้อยกว่าอาเปี๊ยกมาก
เศรษฐา : เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างมีเกียรติมากกว่า ครอบครัวก็ดีกว่า ต่างจากผมที่ครอบครัวค่อนข้างจะจน หาเช้ากินค่ำ คุณพ่อผมเสียตั้งแต่เด็ก ผมทำงานหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่เด็กอายุ 13-14 เพื่อนๆ ก็บอก เฮ้ย! จีบเลยสิวะ ผมก็บอกว่าอยากจะจีบนะ แต่คิดว่ายาก แต่ว่าพอไปอยู่กองถ่ายต่างจังหวัดด้วยกันเป็นเดือน ก็น่าจะเป็นความใกล้ชิด อยู่ด้วยกันทุกวัน กินข้าวด้วยกัน ความใกล้ชิดสนิทสนมทำให้เกิดเห็นใจซึ่งกันและกัน ถามว่าอะไรที่คิดว่าทำให้ชนะใจเขา ผมว่าตัวผมไม่มีอะไรเลยจริงๆ นอกจากความเป็นตัวของตัวเอง เขาก็บอกว่าเวลาคุยด้วยแล้วสบายใจ เราก็พูดในสิ่งที่สนุกสนาน ไม่มีความเครียด พูดเล่นพูดหัวไปวันๆ เขาถึงได้บอกว่าตั้งแต่ไหนแต่ไหนมา ผมว่าคนที่เป็นคนสนุก แล้วมีนิสัยร่าเริงแจ่มใสมักจะมีแฟนสวยทั้งนั้น
อรัญญา : คุณต้อยเขาเป็นคนอารมณ์ดี เราคิดว่าเขารักความก้าวหน้า ขยันทำงานตลอด และรักครอบครัว ห่วงใยดูแลเราอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง ตัวเขาเองดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว อยากให้เขาดูแลสุขภาพให้เสมอต้นเสมอปลายตลอดไป เพราะว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นอกจากนั้นเรื่องงานอะไรก็อยากให้มันเบาลง พักผ่อนตัวเองบ้างค่ะ
เศรษฐา : เราก็ห่วงเรื่องสุขภาพเขานั่นแหละ ที่ผ่านมาเราถกเถียงกันมาหลายครั้งว่า ผมอยากจะตายก่อน อยากฝากให้เขาดูลูก เขาก็บอกว่าเขาต้องตายก่อนให้เราดูลูก ก็ยังถกเถียงกันอยู่ไม่จบ มันเป็นเรื่องปัญหาโลกแตก ในที่สุดถึงวันก็จะรู้เองว่าใครจะต้องไปก่อนกัน ถ้าจะถามถึงอายุก็ใกล้ๆ เข้ามาแล้วล่ะ สิ่งที่ดีที่สุดคือเตรียมตัวให้พร้อมและทำยังไงจะยืดชีวิตให้ยาวที่สุดเพื่อที่จะได้อยู่กับลูกและครอบครัวไปนานๆ
หลักในการครองคู่ของ ''อาต้อย-อาเปี๊ยก'' คือ ให้เกียรติ เข้าใจ และไว้ใจ
อรัญญา : ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราอยู่ด้วยกันมีอะไรก็คุยกันได้ หรือถ้าคุยไม่ได้ก็ต้องหยุดคุยสักพัก ต้องพยายามปรับพยายามจูน เพราะคนเรามาจากคนละครอบครัว ไม่ได้ว่าเหมือนกันทุกอย่าง ต้องมาปรับทั้งนั้น จะด้วยสภาวะแวดล้อม จะด้วยสถานภาพหรืออะไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้แหละที่ต้องรู้ว่าจะปรับตัวยังไง
เศรษฐา : ต้องคุยกันเข้าใจอย่างที่บอก ถ้ามัวมานั่งคิดมาก คุณไปกินข้าวกับคนนั้นคนนี้ อย่างนี้ทะเลาะกันตาย แต่ว่าบังเอิญเรามีอาชีพเดียวกันเลยเข้าใจ ถ้าเป็นคนขี้หึง มีจิตใจไม่มั่นคง ไม่ให้เกียรติ ไม่เชื่อถือซึ่งกันและกัน มันก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ตรงนี้ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เรารู้ว่าแต่ละวันที่ออกไปทำงานต้องทำอะไรบ้าง เลยทำให้เข้าใจกันง่ายขึ้น
สุดท้าย อาต้อย ยังได้ฝากข้อความหวานๆ ถึงภรรยาสุดที่รักด้วย
เศรษฐา : อยากจะบอกว่าขอบคุณที่เชื่อมั่นและตัดสินใจแต่งงานกับผมเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นภรรยาที่ดีมาตลอด ที่สำคัญมีลูกที่ดีให้กับผม ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้มาเป็นครอบครัวเดียวกัน ถือว่าเป็นเกียรติ ภาคภูมิใจว่าเราก็มีเมียสวยๆ กับเขาเหมือนกัน
|