นางเอกสาว “ชมพู่ อารยา” เผยโรงงานของแฟนหนุ่มที่อยู่ในจ.อยุธยารอดน้ำท่วมอย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่บริเวณใกล้เคียงท่วมสูงมาก แต่แถวบ้านของฝ่ายชายกลับถูกท่วมแทนจนต้องอพยพครอบครัวไปอยู่ชะอำ ส่วนครอบครัวของตนย่านตะวันออกของกรุงเทพฯก็ต้องเฝ้าระวังต่อไป

หายใจหายคอโล่งสักทีหลังรอลุ้นรับมือกับน้ำท่วมมาหลายสัปดาห์ ก่อกำแพงสูง 4 เมตรป้องกันดิบดี สุดท้ายโรงงานของแฟนหนุ่ม ที่อยู่จ.พระนครศรีอยุธยา ก็รอดน้ำท่วมอย่างหวุดหวิด โดยนางเอกสาว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาเก็ต” เผยว่าแม้น้ำจะไม่ผ่านมาแม้แต่น้อย แต่บ้านฝ่ายชายกลับถูกน้ำท่วมแทน โชคดีที่น้ำไม่ซึมเข้าในตัวบ้าน ตอนนี้หนุ่ม “น็อต วิศรุต” ก็ต้องอพยพพาครอบครัวไปอยู่ที่ อ.ชะอำ ส่วนบ้านคุณพ่อคุณแม่ของตนที่อยู่โซนตะวันออกก็โชคดีเช่นกันยังไม่เจอวิกฤติเหมือนย่านอื่น แต่ก็ไม่ประมาทเตรียมตัวรับมือที่เต็ม โดยก่อนหน้านี้ได้ย้ายครอบครัวไปต่างจังหวัดแล้วแต่คุณพ่อเกิดอาการเครียดเพราะคิดถึงบ้าน ก็เลยต้องจำใจพากลับกรุงเทพ

     พร้อมกันนี้นางเอกสาวยังปฏิเสธกระแสข่าวลือหลังน้ำลดคุณแม่ของแฟนหนุ่ม จะพาไปดูเรือนหอ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันยังไม่มีแพลนและไม่พร้อมจะเสียสละตอนนี้ ขอทำอะไรเพื่อตัวเองก่อน

ตอนนี้โรงงานคุณน็อตที่อยู่อยุธยาเป็นอย่างไรบ้าง
      “ปลอดภัยมาก สร้างกำแพงสูง 3-4 เมตรกั้นเต็มที่แต่น้ำไม่ผ่านมาเลยซึ่งดีแล้ว แต่มันก็ค่อนข้างจะแปลกนะเพราะในโซนลาดบังหลวงก็ท่วมไปเยอะ คุณน็อตก็หายห่วงแต่ที่บ้านเขาท่วมสูงมากเพราะอยู่แถวเส้นกาญจนาภิเษก แต่น้ำไม่ได้เข้าบ้านนะ สามารถเดินทางเข้าออกได้แต่ทุลักทุเลนิดนึง ตอนนี้ก็ย้ายครอบครัวออกมาอยู่ที่ชะอำ”

แล้วที่บ้านเราเจอน้ำท่วมบ้างหรือเปล่า
      “ชมค่อนข้างจะอยู่ใจกลางกรุงเทพฯมากๆ ก็ไม่ได้กังวลอะไร แต่ที่พักเขาก็ป้องกันเต็มที่ แต่บ้านของคุณพ่อคุณแม่ชมจะพักอยู่โซนตะวันออก เวลามีข่าวแถวคลองสามวาก็จะลุ้นมาก เพราะเราอยู่ห่างตรงนั้นมาไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็โอเคถือว่าแห้ง มีน้ำซึมตามท่อนิดหน่อยก็สูบออก อาจจะสัญจรลำบากนิดนึง ตรงทางไปบ้านคุณแม่รถเล็กจะวิ่งไม่ได้”

มีโอกาสได้ลงพื้นที่ด้วยกันบ้างไหม
      “เคยไปด้วยกันทีนึง ตั้งใจจะไปที่เดียวกันแต่ออกเดินทางคนละที่ ชมออกจากช่อง 3 ส่วนคุณน็อตออกจากโรงงานที่อยุธยา ต่างคนต่างออกตอนเวลา 9 โมง ชมใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง ส่วนเขาใช้เวลา 7 ชั่วโมงเพราะเขาต้องฝ่าตรงที่น้ำท่วมหนัก รถ 6 ล้อของโรงงานพังไปเลย”

จะชวนกันไปช่วยที่ไหนอีกไหม
      “อย่างวันเสาร์นี้ชมว่างก็ไป ถ้ามัวแต่ไปรอกันก็ไม่ได้ช่วยพอดี”

เครียดไหม
      “ตอนแรกที่น้ำยังไม่มาถึงกรุงเทพเราก็ยังไม่มีโอกาสได้ลงพื้นที่ เครียด เพราะว่าเหมือนเราเพิ่งรู้จักน้ำท่วมและไม่รู้ธรรมชาติของเขาว่าจะมาเร็วหรือมาช้า ทุกอย่างคาดเดาไม่ได้ ก็ค่อนข้างเครียด พอเราได้มีโอกาสไปลงพื้นที่แล้วเห็นความยากลำบาก เราโชคดีที่ไม่โดน เพราะเรามีทางเลือก มีโอกาสมากกว่าคนอื่น”

      “แต่ที่ห่วงคือคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อเป็นคนตัวใหญ่เคลื่อนย้ายลำบาก เป็นเบาหวานด้วย ช่วงแรกกลัวว่าน้ำจะมาปุบปับ คิดว่าต้องให้เรือทหารไปรับคุณพ่อออกมา สงสารท่าน ก็ต้องโทรเช็กที่บ้านทุกชั่วโมง จนกระทั่ง 2-3 สัปดาห์ที่แล้วก็บอกว่าให้ออกมาอยู่ข้างนอกก่อนเพราะเราเองก็ไม่สบายใจ เราก็ป้องกันบ้านแล้วเอาท่านออกมา ก็ถือว่าเป็นการไปพักผ่อนต่างจังหวัด”

      “อาการป่วยของคุณพ่อก็โอเคนะ ก่อนที่จะอพยพออกไป ก็พาไปแอดมิทที่โรงพยาบาลก่อน เช็กร่างกายจนเรียบร้อย แล้วก็พาไปพักต่างจังหวัด 2 อาทิตย์ คุณพ่อเหมือนคิดถึงบ้าน เครียด ก็เริ่มมีอาการเกร็ง ชัก ให้ยาก็ไม่หาย สถานการณ์ที่กรุงเทพฯก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ก็เลยพากลับมาแล้วจะพาไปแอดมิท คุณพ่อบอกขอนอนที่บ้านก่อนคืนนึง พอได้นอนที่บ้านเท่านั้นแหละหายเลย”

น้ำท่วมกระทบเรื่องถ่ายละครบ้างไหม
      “เรื่อง “ต้มยำลำซิ่ง” ช่วงที่น้ำท่วมหนักก็หยุดไป 2 อาทิตย์ เนื่องจากว่าเราก็มีคิวออกอากาศเร็วๆนี้ ไม่ถ่ายไม่ได้แล้ว ก็เลยใช้วิธีไปถ่ายในโซนที่ค่อนข้างจะได้ อาทิตย์ที่แล้วไปเขาใหญ่ อาทิตย์หน้าก็ต้องไปอีก ใครบอกว่าทางใช้ได้แล้วรถติดมากเลย 4 ชั่วโมง ช่วงนี้เวลาออกอากาศของละครก็น้อยลง ให้เวลากับข่าวมากขึ้น ชมว่าคนผลิตละคร ดารา คงได้หายใจมากขึ้น”

มีคิวออนแอร์เมื่อไหร่
      “คิวออนแอร์เดือนธันวาคมนี้ คราวนี้อาจจะเลื่อนไปต้นมกราคมปีหน้าแล้ว เนื่องจากละครเรื่องอื่นของช่องก็จบช้ากันหมดเพราะด้วยเวลาที่ออกอากาศสั้นลง”

ต่อข้อซักถามที่ว่าหลังจากน้ำลดคุณแม่ของคุณน็อตจะพาเราทั้งคู่ไปดูเรือนหอ
      “ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เลย สาบานได้ ถ้าจะไปก็คงไปดูกันเอง คุณแม่ไม่ได้ยุ่ง”

หลังน้ำลดจะมีข่าวดีไหม
      “ยังค่ะ ยังไม่มีใครมาขอค่ะ ต่อให้เริ่มพูดกันจริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องปุบปับ ถามว่าพร้อมไหม ด้วยอายุ (นิ่งคิด) ก็ควรจะไปได้แล้ว แต่ใจยังไม่พร้อม เราก็ยังไม่อยากเสียสละอะไรเยอะแยะ อยากทำอะไรเพื่อตัวเอง ดูเห็นแก่ตัวเนอะ (หัวเราะ)”