คงเป็นเรื่องที่สุดแสนจะโรแมนติก แต่ถ้าบัตรอวยพรที่สามีส่งให้ เป็นบัตรอวยพรใบเดิมทุกปีล่ะ?
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของสามีภรรยาคู่หนึ่งในลีดส์ เวสต์ยอร์คเชอร์ ประเทศอังกฤษ สามีสุดโรแมนติกแต่แสนประหยัด “เคน ไมเออร์” วัย 71 ปี ใช้วิธีที่ไม่เหมือนใครและคงไม่มีใครเหมือน ในการบอกรักภรรยา ซึ่งต้องย้อนกลับไปเมื่อค.ศ.1979 อันเป็นปีที่เขาแต่งงานกับหวานใจ “วาเลอรี”ที่ตอนนี้กลายเป็นคุณแม่ลูก 5 พร้อมหลานอีก 12 คนในวัย 63 ปี
หลังจากการที่ซื้อบัตรอวยพรบอกรักภรรยาสุดเลิฟเมื่อ 34 ปีก่อน เขาก็ไม่คิดจะซื้อบัตรอวยพรใบใหม่อีกเลย แต่ใช้วิธีเขียนบัตรอวยพรใบเดิม ที่ตอนนี้ด้านในมีข้อความที่เขาเขียนเต็มไปหมดหลังจากผ่านไปกว่า 3 ทศวรรษและส่งให้ภรรยาแทน
เคนเป็นนักเขียนนิยายโรแมนติก เจ้าของนามปากกา “เคน แมคคอย” ที่คิดว่าสิ่งที่เขาทำช่างแสนโรแมนติกสมกับอาชีพของเขาเหลือเกิน
ที่น่าแปลกใจคือ เคนเคยเป็นนักออกแบบบัตรอวยพรในช่วงปี 1970 ที่ออกแบบการ์ดสวยๆ กว่าร้อยใบให้ผู้ผลิตบัตรอวยพรชื่อดังเช่น ฮอลมาร์ค บัตรอวยพรที่เขาให้ภรรยาทุกปีก็เป็นบัตรอวยพรที่เขาออกแบบเอง แต่แทนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นการ์ดสวยๆ ในแต่ละปี เคนกลับใช้วิธีอันเป็นเอกลักษณ์แทน
นอกจากนี้เขายังบอกว่า ภรรยาคงจะเสียใจ หากไม่ได้การ์ดใบเดิมในแต่ละปี เพราะการ์ดใบนี้กลายเป็นมรดกตกทอดของครอบครัวไปแล้ว
ด้านวาเลอรีกลับชอบบัตรอวยพรสุดพิเศษนี้และไม่คิดว่าสามีเธอเป็นคนขี้เหนียวแต่อย่างใด โดยเธอเปิดเผยด้วยความภูมิใจว่า เธอรักบัตรอวยพรใบนี้มาก เมื่อได้รับในแต่ละปี เธอก็จะเก็บรักษาไว้อย่างดี บางปีเธอเก็บไว้ดีเกินไปจนหาแทบไม่เจอด้วยซ้ำ เธอคิดว่าเคนเป็นสามีที่โรแมนติกมาก หลังจากแต่งงานมา 35 ปี สิ่งเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แหละที่ช่วยให้เวทมนตร์แห่งรักคงอยู่
วาเลอรีเผยเคล็ดลับการครองรักอันแสนโรแมนติกว่า “ฉันคิดว่าความลับของการแต่งงานที่ยาวนานและเป็นสุขคือความเป็นเพื่อน หลังจากความรักแบบหลงใหลหายไป คุณต้องชอบกันและกันให้มาก และเราก็ทำให้กันและกันหัวเราะ”
พบรักที่ด่านเก็บเงิน
คงไม่มีใครคาดคิดว่า “ด่านเก็บเงินบนทางด่วน”จะเป็นสถานที่ที่เกิดความรักได้ แต่เวลาแค่ไม่กี่วินาทีที่นักร้องโอเปร่าสาวกับหนุ่มพนักงานเก็บเงินค่าทางด่วนได้เจอกันในแต่ละวัน กลับไม่เป็นอุปสรรคขวางทางไม่ให้ทั้งคู่หลงรักกัน
“ซอนยา เบเกอร์”นักร้องโอเปร่าสาวต้องใช้บริการทางด่วนทุกวันเพื่อไปทำงาน และในวันแรกที่เธอขับผ่านด่านเก็บเงินที่ทางออก 19 ของทางด่วนในคิงสตัน รัฐนิวยอร์ค เธอก็พบกับพนักงานเก็บเงินหนุ่ม“ไมเคิล ฟาซิโอ”
เธอคิดว่าเขาช่างน่ารัก และทั้งสองก็มักจะพูดคุยทักทายกันทุกครั้งเธอที่ยื่นเงินค่าทางด่วนให้ ผ่านประโยคสั้นๆ ที่เวลาไม่กี่วินาทีจะอำนวย เช่น “วันนี้เป็นไงบ้าง”หรือ“คุณจะไปไหน” ทำแบบนี้ทุกวันเป็นเวลากว่า 3 เดือน
เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองก็เริ่มเรียนรู้รายละเอียดส่วนตัวของกันและกัน เช่น ซอนยารักเพลงโอเปร่าของpucciniและ verdi หรือไมเคิลคลั่งไคล้ทีมฟุตบอลนิวยอร์ค แยงกี้
แต่ความสัมพันธ์ที่ดูท่าว่าจะราบรื่นกลับสะดุด เมื่อไมเคิลต้องเปลี่ยนกะไปทำงานช่วงกลางคืน ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้พบกันที่ห้องเก็บเงินทางด่วนอีกต่อไป
ไมเคิลได้แต่มองหารถยนต์ของซอนยา แต่ก็ไม่เคยพบ เนื่องจากเวลาการเดินทางของเธอและการทำงานของเขาไม่ตรงกัน
ส่วนซอนยาก็ได้แต่ผิดหวัง เพราะห้องเก็บเงินของไมเคิลมักไม่เปิดบริการ แม้ว่าเธอจะลงทุนขับรถข้ามมาหลายเลนเพื่อมายังห้องเก็บเงินของเขาก็ตาม
ทั้งสองไม่ได้พบกันเลยกว่า 6 เดือน ในที่สุดเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง ซอนยาก็รวบรวมความกล้าขอให้ไมเคิลออกเดทด้วย โดยเธอส่งเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองให้ ขณะที่ขับรถผ่านด่านเก็บเงิน
แน่นอนว่าไมเคิลที่ชอบซอนยาเช่นกันก็ตอบตกลง โดยครั้งแรกที่นัดเจอกัน ทั้งสองออกไปกินข้าวและดูหนัง ส่วนครั้งต่อๆ มาก็พาอีกฝ่ายไปชมกิจกรรมที่ตัวเองชอบ เช่น ไปชมการแข่งขันของทีมนิวยอร์คแยงกี้หรือไปชมการแสดงโอเปร่า พัฒนาความสัมพันธ์จนแข็งแรงและตกลงแต่งงานกันในที่สุด
ตอนนี้พวกเขาแต่งงานกันมา 12 ปีแล้ว และเรื่องราวความรักที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นของพวกเขาก็ถูกนำไปถ่ายทอดในหนังสือ “ออล แธร์ อิส:เลิฟ สตอรีส์ ฟอร์ม เดอะ สตอรี คอร์ปส์”ที่รวบรวมเรื่องราวความรักอันเกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่น่าจะเกิด เช่น ค่ายทหารในอิรักหรือเลาจน์ในสนามบิน
หญิงสาวกับกวางมูส มิตรภาพที่สายพันธุ์ไม่อาจกั้น
หากมีใครถาม“วาเนสซา กิบสัน”ว่าเพื่อนรักของเธอคือใคร เธอคงไม่ลังเลที่จะตอบว่า “กวางมูส”
หญิงสาววัย 23 ปี มีความสัมพันธ์ที่พิเศษและไม่มีใครเหมือนกับ “แจ็ค” กวางมูสตัวผู้อายุ 3 ปีในศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าอลาสก้า
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน “แจ็ค”เป็นลูกกวางมูสตัวน้อยอายุ 3 วัน น้ำหนักเพียง 11 กิโลกรัม แจ็คมีอาการผิดปกติที่สัตวแพทย์ลงความเห็นว่ามีโอกาสเพียงร้อยละ 20 ที่จะรอดชีวิต
แต่วาเนสซากลับใช้ความทุ่มเทดูแลประคบประหงมลูกกวางมูสตัวนี้ ยอมอดหลับอดนอนเพื่อที่จะป้อนนมสูตรพิเศษให้แจ็คทุกๆ 4 ชั่วโมง
จากการที่ได้อยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน ทำให้ทั้งคู่แทบแยกจากกันไม่ได้ โดยเฉพาะเจ้าลูกกวางที่ร้องเสียงดังและเตะประตูโครมครามหลังจากวาเนสซาป้อนนมให้เสร็จแล้วและต้องไปทำงานอย่างอื่น
หญิงสาวใช้เวลาทุกคืนในช่วงฤดูร้อนนั้นอยู่ดูแลแจ็ค และเมื่อกวางน้อยแข็งแรงพอที่จะออกไปอยู่กลางแจ้งได้ เธอก็ถึงกับกางเต็นท์นอกที่พัก เพื่อจะได้อยู่ใกล้แจ็ค และแจ็คก็มานอนอยู่ข้างเต็นท์ตลอดเวลา
จากที่วาเนสซาต้องคอยดูแล ตอนนี้เจ้ากวางมูสอลาสก้ามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ตัวสูง 1.84 เมตร น้ำหนักกว่า 450 กิโลกรัมและทำหน้าที่อย่างแข็งขันในการปกป้อง “แม่”ของมัน
วาเนสซามาทำงานในศูนย์แค่ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมในแต่ละปี แต่ 9 เดือนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แจ็คก็ยังจำเธอได้ดี และมักจะวิ่งเอาหน้ามาถูๆ ที่ตัวเธออยู่เสมอ
ทั้งคู่มักจะเล่นไล่จับและเดินเล่นด้วยกันรอบๆ ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าอลาสก้าที่เจ้ากวางอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นภาพที่แปลกตาและน่าประทับใจสำหรับผู้พบเห็น อยากรู้ว่าจะน่ารักและแปลกตาขนาดไหน ชมได้ในคลิป
|