สำหรับคู่ของหนุ่ม ''แบงค์'' พชร ปัญญายงค์ และสาว ''นิหน่า'' สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา ที่ล่าสุดนั้นหนุ่มแบงค์ก็ได้ทำการเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ให้กับสาวนิหน่าในเกิด เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา กับการเดินทางไปคุกเข่าขอสาวนิหน่าแต่งงานในรายการ ''สปอร์ตแฟน'' ทางช่อง 7 หลังจากที่ได้คบหาดูใจกันมากว่า 1 ปี ทำให้ฝ่ายหญิงนั้นถึงกับแสดงอาการดีใจสุดขีดจนน้ำตาคลอแถมฝ่ายชายเองก็ยัง รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน

      และล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 หนุ่มแบงค์ก็ได้ควงคู่หวานใจสุดที่รักสาวนิหน่าไปร่วมพูดคุยเปิดใจเกี่ยวกับ เรื่องการแต่งงานในรายการ ''เช้านี้ดูวู้ดดี้'' ของพิธีกรหนุ่มชื่อดัง ''วู้ดดี้'' วุฒิธร มิลินทจิดา   ที่สตูดิโอวู้ดดี้ เวิลด์ อาร์ซีเอ


      โดยบรรยากาศภายในงานทั้งสองได้ร่วมพูดคุยย้อนวันวานถึงวันที่มาพบเจอกันและ วินาทีที่ฝ่ายชายได้เริ่มต้นของแต่งงาน แถมงานนี้พิธีกรหนุ่มก็ยังทำการเซอร์ไพรส์คู่รักคู่นี้ด้วยการมอบแพ็กเกจสุด พิเศษให้กับทั้งคู่โดยสปอนเซอร์สุดใจดี ซึ่งได้แก่แพ็กเกจแต่งงานสุดพิเศษจากนิตยสารเวดดิ้ง โดยการออกแบบชุดเจ้าสาวให้กับสาวนิหน่า และแพ็กเกจฮันนีมูนสวีตหวานที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์เชียงใหม่ และตั๋วเครื่องบินไปสวีตหวานกันที่อเมริกา พร้อมทั้งเครื่องทองสุดหรูชุดใหญ่จากโกมาสเตอร์จำกัด โดยมีคุณนพดล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการโกมาสเตอร์ จำกัด เป็นผู้มอบ โดยมีมูลค่ารวมแล้วกว่า 1 ล้านบาท เลยทีเดียว

      นอกจากนี้สาวนิหน่าก็ยังได้ทำการเซอร์ไพรส์หนุ่มแบงค์ด้วยการโชว์พลังเสียง ร้องมอบความรู้สึกทั้งหมดผ่านบทเพลงเพราะๆ ให้ฝ่ายชายได้ฟังกับเพลง ''รักไม่ต้องการเวลา'' งานนี้ทำเอาหนุ่มแบงค์ถึงกับปลื้มใจและยิ้มไม่หุบกับความหวานที่ต่างคนต่าง มอบให้กัน


      จากนั้นเมื่อจบการบันทึกเทปรายการทั้งคู่ก็ได้ควงกันมาอัพเดตเกี่ยวกับการ วางแปลนแต่งงานนี้ครั้งนี้ โดยทั้งสองบอกว่าได้ฤกษ์หมั้นและฤกษ์แต่งเป็นที่แน่ชัดแล้ว โดยจะมีพิธีหมั้นในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553 ส่วนฤกษ์แต่งงานจะมีในวันที่ 8 มกราคม ปีหน้า ส่วนเรื่องสินสอดนั้นขออุบไว้ก่อนซึ่งปล่อยให้ทางผู้ใหญ่เป็นคนจัดการและ หลังจากที่วิวาห์เสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะบินลัดฟ้าไปฮันนีมูนกันที่อเมริกา


ความรู้สึกจากวันที่ถูกขอแต่งงานจนวันนี้หายตื่นเต้นหรือยัง
นิหน่า : ก็รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะแต่ว่าเมื่อวานเพิ่งได้มีโอกาสไปดูคลิปที่อยู่ในยูทูบ แล้วก็นั่งร้องไห้ เพราะวินาทีนั้นนิหน่าบอกตรงๆ ว่าจำอะไรไม่ได้เลย เขาพูดอะไรมาเหมือนหูชา

''แบงค์'' เตรียมการครั้งนี้มานานหรือยัง
แบงค์ : 30 วันเต็มๆ ครับก่อนที่จะไปจริงๆ เตรียมวางแผนเซตงานว่าจะเดินเข้าไปอย่างไร พูดอะไรบ้างวิ่งไปหาแหวนแล้ว คุณแม่ก็เป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้ด้วยก็ช่วยๆกันนะครับ ก็มีเพื่อนไม่กี่คนที่ทราบเพราะว่าเป็นสิ่งที่เราดีใจและยินดีที่อยากจะบอก กับคนที่เรารักที่สุด แต่มันต้องอัดอั้นมา 30 วัน เพราะพี่แจ๊คกี้ (อดิสรณ์ พึ่งยา) ด้วยล่ะ
นิหน่า : (แอบแซว) อย่าเพื่อนไม่กี่คนอะไร นิหน่าไปมหาวิทยาลัยใครที่มีบีบีเขาน่ะเขาบอกหมดเลย
แบงค์ : คือผมบอกวันที่บอก แต่ตั้งแต่ 29 วันไม่ได้บอกใครเลย นอกจากคุณพี่ส้ม รายการวู้ดดี้เพื่อนสนิทกันแค่นั้นเองน้อยมาก

ตอนที่ขอ ''นิหน่า'' แต่งงาน ''แบงค์'' มือสั่นมาก
แบงค์ :โอโห้เจ้าเข้าเลยครับ มือสั่นมากๆ
นิหน่า :พี่คะหนูกลัวเขาเป็นลมมากค่ะ หนูเห็นเขาแล้วเป็นห่วงมากๆ เพราะว่าอาการเขาเหมือนคนเป็นลม
แบงค์ : คือผมดีใจมากวันที่เรารอมาถึง ก็เลยตื่นเต้นไปหมดดีใจครับคือจริงๆ เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้วคือล็อกวันโบสถ์ไว้แล้ว
นิหน่า : คือพอเสร็จจากเขามอบของขวัญให้แล้วก็ไปนั่งทานข้าวหน้าช่อง 7 แล้วเขาบอกนิหน่าเรามีที่จัดงานอยู่ 4 ที่จนนิหน่าบอกเดี๋ยวก่อนข้อมูลมันมาเร็วเกินไป(หัวเราะ) แต่ว่าทั้งหมดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายแล้ว

ได้วันหมั้นวันแต่งแล้วตกลงเป็นเมื่อไร
นิหน่า : วันหมั้นจะเป็นวันที่ 17 พ.ย. ที่ต้นรักสตูดิโอ อาคารต้นสัก ที่เป็นเรือนไทย วันแต่งยังตกลงเรื่องโรงแรมกันอยู่แต่ตอนเช้าจะเป็นงานที่โบสถ์อัสสัมชัญ บางรัก เย็นถ้ารู้แล้วเดี๋ยวจะประกาศ แต่งวันที่ 8 ม.ค.  ปีหน้า

คุณพ่อคุณแม่บอกไหมว่ายิ่งมีลูกปีนี้ได้ปีหน้ายิ่งดี
นิหน่า :ไม่ค่ะคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้บอกอะไร
แบงค์ : เดี๋ยวปีนี้พาน้องไปเที่ยวกันก่อน ที่ๆ น้องไปมาและที่ๆ ผมไปมา แต่เรายังไม่เคยไปด้วยกันมาเพื่อสร้างภาพความทรงจำใหม่ๆ ที่ดีระหว่างเรา ถ้าน้องเขาอยากไปหลายๆ ประเทศก็จะพาไปให้หมด

ถือว่าแต่งสายฟ้าแลบไหม
แบงค์ : ไม่น่ะมันเป็นเรื่องที่ผมเคยเกริ่นนำมาแต่งปีหน้าแล้วกัน เพราะว่าปีนี้งานใหญ่ผมเยอะมากก็เลยเป็นอีกหนึ่งมุกที่หลอกล่อน้องเขาว่าปี หน้าแล้วกัน จนน้องเขาบอกมาอีกประโยคหนึ่งที่ทำให้โดนเลยว่าไม่ต้องพูดแล้วเดี๋ยวจะชิน ปาก เราก็กลับมาไตร่ตรองและพูดกับผู้ใหญ่คุณพ่อคุณแม่ทันที

เล่าตอนที่ตัดสินใจเข้าไปขอนิหน่ากับคุณพ่อให้ฟังหน่อย
แบงค์ : ก็สั่นพอๆ กันครับคือคุณพ่อถามคำถามลูกผู้ชายออกมาว่าดูแลน้องได้จริงๆเหรอก็เลยบอกว่า จะบอกในรายการอีก 1 เดือนต่อจากนี้ไปว่า จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ดูแลลูกสาวของปะป๋าให้ดีกว่าเท่าที่ลูกผู้ชายคนหนึ่ง จะสามารถทำได้

ตั้งใจเอาธีมลิเวอร์พูลมาไปจัดงานแต่งไหม
แบงค์ : อันนี้ขออุบดีกว่า
นิหน่า :แต่ว่าพูดถึงเรื่องทวิตเตอร์ได้ไหม เพราะว่าทำให้เราเจอกันได้รู้จักกันก็คงจะมีธีมทวิตเตอร์ต้องคอยดู
แบงค์ : เชิญพี่ๆ เพื่อนๆ สื่อมวลชนลองไปดูสนุกกัน

''นิหน่า'' จะมีส่วนร่วมในการแต่งงานของตัวเองอย่างไรบ้าง
นิหน่า :โอ้โหเขาทิ้งทุกอย่างไว้ที่นิหน่าเขาบอกว่าเขาทำมาเยอะแล้วครึ่งแรกผมทำมาเต็มแล้วต่อไปคุณจัดการ (หัวเราะ)

มีแปลนไปถึงเรื่องฮันนีมูนหรือยัง
แบงค์ : ก็วู้ดดี้จัดใหญ่มาให้จริงๆ คิดไว้แล้วว่าจะพาน้องไปอเมริกา กลายเป็นว่าวู้ดดี้กับคุณส้มไปรู้อีกเลยจัดมาให้ก็ขอบคุณมากครับ

งานแต่ง 8 มกราคม 2554 จะเป็นงานแต่งที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งงานเลยไหม
แบงค์ : คือคุณพ่อโทร.มาว่าจะจัดงานที่โรงแรมหนึ่งที่เปิดใหม่พ่อบอกว่าไม่พอแค่ผู้ใหญ่เพื่อนพ่อก็เป็นพันแล้ว
นิหน่า :ก็เป็นงานการให้เกียรติคุณพ่อคุณแม่ล่ะค่ะ สำหรับเรื่องการแต่งงานเพราะว่าเป็นประเพณีไทยคือการให้เกียรติผู้ที่ให้ กำเนิดเรามาก็คงจัดตามใจคุณพ่อคุณแม่เขาก็ให้เราจัดเต็มที่แต่หลายๆ อย่างเราต้องกลับไปปรึกษาครอบครัวเช่นกัน จริงๆ อย่างที่บอกมันเป็นเรื่องของตามประเพณีมากกว่า แต่สุดท้ายเป็นคนสองคนที่ตัดสินใจว่าเราจะอยู่ดูแลกันแล้วนะ

แหวน 3 กะรัตที่นิ้วนางข้างขวาวงนี้ถือว่าเป็นแหวนหมั้นเลยไหม
นิหน่า : เป็นแหวนหมั้นค่ะ ส่วนแหวนแต่งงานจะเป็นเรียบๆ เพราะว่าเป็นคาทอลิก

ตอนนี้เตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว
นิหน่า : มีเตรียมเรื่องงานเรื่องการ์ดเชิญแขกพอดีเพื่อนที่เพิ่งแต่งงานไปมาคอยให้คำแนะนำในครั้งนี้

สุดท้ายอยากให้ย้อนวันวานถึงวันที่มาพบกันได้อย่างไร
นิหน่า :เจอกันทางทวิตเตอร์
แบงค์ : แต่จริงๆ เคยเจอกันก่อนรอบหนึ่งแล้วก็มาเจอในทวิตเตอร์อีกที่หนึ่ง และพอมาเจอว่าน้องเขาชอบลิเวอร์พูลก็ตามผลงานเขามาสักพักก็เลยพูดคุยกัน
นิหน่า :แต่ก็ไม่ได้จีบกันนะคะ เพราะคุยแต่เรื่องบอลโชว์ดีเหมือนว่าเรารู้จักเขาบ้างแล้วเราก็คุยกับเขาแต่ ไม่คิดว่าเขาจะมาจีบเพราะว่าดูเราไม่ใช่สไตล์
แบงค์ : คือจริงๆ จีบกันผ่านทีวีน่ะ เราเลยบอกว่าลองฟังนะช่วงเวลานี้นะผมก็พูดถึงหุ้นตัวหนึ่งว่ามันเสี่ยงหลายๆ ท่านถามมาว่าจะเสี่ยงกับมันไหม ถ้าทุกคนรักความเสี่ยงกับผมก็บอกว่ารักนิหน่า ตอนนั้นไม่มีใครรู้เลยก็มีแค่เราสองคนเท่านั้นที่รู้ครับ

ขอขอบคุณ