วันที่ 3 มี.ค. 2553
ความรักทำให้โลกนี้สวยงามสดใสเสมอ และไม่มีใครสามารถอยู่ได้โดยที่ปราศจากความรู้สึกดี ๆ ที่เรียกว่า "รัก"หลายคนไม่กล้าที่จะมีความรัก
เพียงเพราะกลัวว่าความรักจะทำให้ผิดหวัง...แต่หากรักให้เป็น
รักบนพื้นฐานของความถูกต้อง เข้าใจ และยอมรับ ความรักก็จะดลบันดาลความสุข
อิ่มเอมอย่างที่สุดให้กับคนที่รู้จักรัก
วันนี้เรามีโอกาสได้เข้าไปเจาะลึกหัวใจรักของนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดีอย่าง
จ๊อบ-นิธิ สมุทรโคจร ซึ่งมีผลงานมากมายทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เขาจะมาเปิดหัวใจรักระหว่างเขาและภรรยาสาวสวย
มิกิ-พรพรรณ สมุทรโคจร เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นจะมีความเป็นมาอย่างไร เราไปติดตามเรื่องราวความรักที่สุดแสนจะลงตัวของทั้งคู่กันเลยดีกว่าค่ะ...
พรหมลิขิตครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรคะ
คุณมิกิ : โห...นานมากแล้ว (หัวเราะ)
คุณจ๊อบ :เราแต่งงานกันปี 2002 ก็นับย้อนไปอีกประมาณ 7 ปี ก็ประมาณปี 1995
ที่เราเริ่มรู้จักกัน คือ มิกิเค้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนผมน่ะครับ
คุณมิกิ :เพื่อนจ๊อบเค้าทำโมเดลลิ่ง แล้วน้องชายพี่เค้าไปเป็นนายแบบ
เค้าก็รู้จักกับจ๊อบ แล้วก็เลยแนะนำให้รู้จักกัน
ก็เลยได้รู้จักกันจากตรงนั้น
แต่เราสองคนรู้จักกันครั้งแรกด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ (ยิ้ม)
คุณจ๊อบ :เพราะว่าผมอยากสนิทสนมกับน้อง ๆ เค้า แต่เค้าเป็นพี่คนโตของบ้าน
ก็เป็นห่วงน้อง ๆ อยากให้เลิกงานแล้วก็รีบกลับบ้าน
แล้วผมก็เลยรู้สึกว่ามันทำไม 6 โมงเย็นแล้วมันต้องให้กลับบ้านเลยเหรอ
(หัวเราะ) ผมก็เลยบอกน้อง ๆ
เค้าบอกว่าเดี๋ยวผมจะโทรไปเคลียร์กับที่บ้านเค้าให้รู้เรื่อง
ว่าทำไมต้องรีบกลับบ้านมากขนาดนั้น ก็เลยโทรไปคุย แล้วก็ขอไปพบที่บ้านด้วย
พอคุยไปคุยมาก็รู้สึกถูกชะตาครับ (ยิ้ม)
คุณมิกิ : เค้าคงคิดว่าดูดี คงอยากเอาชนะน่ะค่ะ (หัวเราะ)
แล้วต่อจากนั้นมีการสานสัมพันธ์กันอย่างไรบ้างคะ
คุณจ๊อบ :จริง ๆ เราสองคนต่างคนต่างก็มีหน้าที่ มีภารกิจของแต่ละคน
ตอนนั้นมิกิเค้าก็กำลังเรียนต่อปริญญาโทด้วย
ผมเองก็มีภารกิจในเรื่องของการขยายงาน เราสองคนต่างคนต่างทำงาน
แต่เนื่องจากว่าเราคบกันแล้วคุยกันก่อน มีกฎเกณฑ์ของมันแล้วว่า
เค้าก็ทำงานของเค้า มีสังคมของเค้าเอง เราเองก็ทำงานของเรา
แล้วก็มีสังคมของเราเองด้วย ซึ่งตรงนี้เราต่างคนต่างระลึกไว้ในใจอยู่แล้ว
ก็ต่างคนต่างใช้ชีวิต แต่เราก็จะมีช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันด้วย
คุณมิกิ :คือนิสัยของพี่จะเป็นแบบชอบอยู่เงียบ ๆ ชอบสันโดษ
ค่อนข้างที่จะมีโลกส่วนตัว ไม่ชอบออกไปเที่ยวข้างนอก ไม่ชอบไปปาร์ตี้อะไร
ชอบอยู่บ้าน ดูทีวี ก็มีความสุข (ยิ้ม) แต่เค้าจะต้องมีสังคมของเค้า
มีงานเลี้ยงบ้าง แต่พี่ก็ยอมรับในตรงนั้นที่เค้าเป็น คือเราคบกันมานาน 4
ปี แล้วมันเหมือนการเรียนรู้ คบกันแบบเพื่อน
แล้วมันรู้จักความเป็นตัวตนของกัน มันเป็นการทำความรู้จักนิสัยใจคอ
แล้วเราทำความเข้าใจยอมรับในสิ่งที่เค้าเป็นได้ มันก็ไม่มีปัญหา
ในช่วงที่คบกันก็มีไปเที่ยวด้วยกัน จะหาเวลาเจอกันบ้าง
หากิจกรรมทำด้วยกันเพื่อสานสัมพันธ์
แล้วด้วยความที่เราสองคนต่างคนต่างทำงาน มันเลยต้องมีการจัดสรรเวลานิดนึง
(ยิ้ม) เพื่อที่จะได้ใช้เวลาที่เราสองคนว่างตรงกันนั้นอยู่ด้วยกัน
เราจะพยายามใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่า
เมื่อไหร่ที่พอมีเวลาเราก็จะใช้ร่วมกันอย่างเต็มที่ค่ะ
อะไรที่ทำให้คิดว่าคนนี้แหละที่เราพร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขคะ
คุณจ๊อบ : ยิ้ม...
คุณมิกิ :สำหรับมิกิค่อนข้างที่จะเป็นคนมีความมั่นใจในระดับหนึ่งอยู่แล้วค่ะ
แล้วมิกิรู้สึกว่าคนนี้ที่เข้ามาเค้าทำให้เรายอมรับได้
สามารถทำให้เราเปลี่ยนความคิดได้ อีกอย่างมีหลาย ๆ
คนที่เข้ามามันก็ยังไม่มีใครที่ทำให้เราเปลี่ยนความคิดและยอมรับได้
แต่พอจ๊อบเค้าเข้ามา ไม่ใช่เพราะเค้าเป็นดารา หน้าตาดีหรืออะไร
แต่ด้วยความที่เค้ามีความเป็นผู้ใหญ่ เค้าสร้างเนื้อสร้างตัวทุก ๆ
อย่างด้วยตัวของเค้าเอง
พี่ก็เลยมีความรู้สึกว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องแต่งงานกับใครซักคน คน ๆ
นั้นก็ต้องเป็นคนที่ดูแลเราได้ และเราก็ต้องยอมรับเค้าได้
ซึ่งพี่คิดว่าตรงจุดนี้แหละ จ๊อบเค้าคือคนที่ใช่สำหรับพี่ (ยิ้ม)
คุณจ๊อบ :ไม่รู้ซิ (ยิ้ม) ผมว่ามันเป็นเรื่องของเวลามากกว่า
คือเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน
มันกลายเป็นความผูกพันที่ทำให้เรามีกันและกันอยู่เรื่อยมาน่ะครับ
แล้วมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันไหมคะ
คุณจ๊อบ : อะไรล่ะ...เออ...น่าคิด (ยิ้ม)
คุณมิกิ :ก็เราสองคนก็คบกันมานานมากแล้ว (หัวเราะ)
แล้วคิดว่าเรื่องเวลามากกว่าที่ทำให้ตัดสินใจ
มันถึงจุดที่เรียกว่าสมควรแก่เวลาแล้ว แล้วเรารู้สึกว่ามันใช่แล้ว
เมื่อถึงจุดนั้นเราก็เลยโอเค แต่งงาน จะได้สร้างครอบครัว
มีเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจน
คุณจ๊อบ :เจตนาอย่างหนึ่งคือ ผมอยากมีลูกมาก
ก็เลยคุยกันว่ามันน่าจะถึงเวลาที่เราจะอยู่เป็นครอบครัว แล้วก็มีลูก
แล้วประกอบกับปีนั้นเราสองคนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ เรียกง่าย ๆ
ว่าได้รับสมรสพระราชทานอ่ะครับ แล้วน้อยคนที่จะได้รับตรงนี้
เราก็เลยรู้สึกว่า เออ...ทุกอย่างมันลงล็อคพอดี
ก็เริ่มต้นครอบครัวกันเลยดีกว่า
ตั้งแต่วันแรกที่คบกันจนถึงทุกวันนี้ประทับใจอะไรในกันและกันบ้างคะ
คุณมิกิ :เค้าเป็นคนทำงาน แล้วมิกิก็ชื่นชมในความเป็นเค้า และทุกอย่างที่เค้าทำ
ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่เป็นคนโรแมนติก ไม่กระหนุงกระหนิงอะไรเหมือนใคร ๆ
แต่เราก็ภูมิใจค่ะ (ยิ้ม)
ตรงนี้คงเป็นจุดหนึ่งที่รู้สึกประทับใจในตัวเค้ามาก ๆ
คุณจ๊อบ :ที่เล่ามาทั้งหมดจริง ๆ มันคือความผิดพลาดของผมหมดเลย (หัวเราะ)
คือผมจะไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ผมจำวันสำคัญ
วันพิเศษอะไรก็ไม่ได้ ไม่สามารถที่จะดูแล
และไม่ค่อยใส่ใจความเป็นครอบครัวได้เต็มที่ แล้วทุก ๆ
อย่างที่เป็นความบกพร่องของเรา
เรามีเค้าเป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มในชีวิตให้มันเต็ม (ยิ้ม)
ขอขอบคุณ