วันที่ 4 พ.ค. 2555

เป็นอีกคนบันเทิงที่เดินเข้าสูประตูวิวาห์ในปีนี้ สำหรับพระเอกนักบู๊ 'จา' พนม ยีรัมย์ และแฟนสาวนอกวงการ 'น้องบุ้งกี๋' น.ส.ปิยรัตน์ โชติวัฒนานนท์ แฟนสาวทายาทเจ้าของโรงแรมดาร์กอน เมืองระยอง ที่คบหากันมาร่วม 3 ปี
โดยทั้งคู่ได้จัดงานฉลองมงคลสมรสขึ้น เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ โดยก่อนงานจะเริ่มในช่วง 18.00 น. หนุ่มจาได้ควงเจ้าสาวคือน้อง 'บุ้งกี๋' มาเปิดใจกับผู้สื่อข่าว
ผู้สื่อข่าวเปิดคำถามถึงความรู้สึกของทั้งคู่ในวันนี้ โดยหนุ่มจา กล่าวยอมรบว่า รู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมากในวันฉลองสมรสครั้งนี้
จา : 'วันนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยครับ เป็นวันที่สำคัญมากวันหนึ่ง และมีความสุขมากๆ ครับ'
เมื่อถามว่ารู้สึกประทับใจอะไรในกันและกัน พระเอกนักบู๊ อธิบายว่า เขาชอบตัวตนของเจ้าสาวที่สามารถเติมเต็มให้กันในส่วนที่ขาดหายไปในชีวิต และรู้สึกประทับใจจากการดูใจกันมากว่า 3 ปี ขณะที่ด้านฝ่ายหญิง รู้สึกว่าฝ่ายพระเอกนักบู๊เป็นคนจริงใจ และเป็นคนที่มีอัธยาศัยน่ารัก
จา : 'เขาเป็นคนที่มาเติมเต็มใจสิ่งที่ขาดหายไป อย่างเรื่องที่ปกติเราทำงานแบบจริงจังมาก แต่บุ้งกี๋เขามาละลาตรงนั้น หลังจากที่เราไปไหนมาไหนด้วยกันได้ศึกษาดูใจกันมา 3 ปี ตั้งแต่ผมถ่ายหนัง องค์บาก 3 ก็ชอบและได้ชวนเขาไปวัดก็รู้สึกประทับใจเขามาก เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้แหละใช่เลย'
บุ้งกี๋ : 'พี่จาเป็นคนน่ารักค่ะ อัธยาศัยดี และเป็นคนจริงใจค่ะ เขาเป็นคนโรแมนติกและมีมุมน่ารัก'
เมื่อถามถึงช่วงเวลาที่ขอแต่งงาน เจ้าสาวก็ถึงกับอมยิ้มก่อนจะตอบอย่างอารมณ์อายๆ ว่า
บุ้งกี๋ : 'ตอนนั้นดูทีวีอยู่ พอพี่จาเห็นในละครเขาก็ลงมาคุกเข่าข้างๆ แล้วบอกว่า แต่งงานกันนะ เราก็ถามว่าทำไมต้องมาทำตามละครด้วย เขาก็บอก ไม่ใช่ละคร แต่เป็นเรื่องจริง'
ในขณะที่ด้านหนุ่มจา ก็ให้เหตุผลถึงสาเหตุส่วนหนึ่งที่เลือกผู้หญิงคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต ก็เพราะว่าแม่ของตนเคยสอนว่า ถ้าจะดูผู้หญิงให้พาเข้าวัด ซึ่งตนได้มีโอกาสพาเจ้าสาวไปนั่งสวดมนต์ในช่วงเคาต์ดาวน์ปีใหม่ แล้วรู้สึกประทับใจมาก
จา : 'คุณแม่ก็เคยสอนว่า ถ้าผู้หญิงคนไหนที่เราเลือก ให้ลองชวนไปวัดดู ผมก็ชวนไปเคาต์ดาวน์ที่วัดเลยครับ สวดมนต์ข้ามคืนจนถึงเจ็ดโมงเช้า เราก็มีความรู้สึกว่าประทับใจมาก'
ส่วนเรื่องอายุที่ทั้งคู่ห่างกันสิบกว่าปี ในเรื่องนี้ หนุ่มจา แจงว่าไม่ใช่ปัญหาในการดำเนินชีวิตคู่ เพราะต่างคนต่างปรับเข้าหากัน อีกทั้งฝ่ายหญิงก็มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือน และเข้ากับครอบครัวและผู้ใหญ่ที่ตนนับถือได้เป็นอย่างดี
จา : 'มันก็มีบ้างนะ แต่เราก็มาจูนเข้าหากัน อย่างในเรื่องที่ว่าเราเป็นคนจริงจังในเรื่องของการทำงาน น้องเขาก็มาช่วยเติมเต็มในสิ่งที่หายไป ผมชอบร้องเพลง เขาก็ชอบร้องเพลง มันก็ทำให้รีแลกซ์ แม้กระทั่งพาไปหาผู้ใหญ่เขาก็เข้ากับพ่อแม่เราได้ดี แม้กระทั่งเสี่ย (เสี่ยเจียง) ก็ชอบเค้า ยิ่งเฉพาะพ่อแม่ของบุ้งกี๋เปิดโอกาสให้เราศึกษาดูใจกัน ก็ยิ่งทำให้เราได้เรียนรู้กันมากขึ้น ทำให้รู้ว่าเขาเป็นผู้หญิงที่คุยสนุกและเป็นแม่บ้านแม่เรือน'
ผู้สื่อข่าวยิงคำถามต่อว่า หมั้นกันมาตั้งแต่เกือบสองปีที่แล้ว ทำไมถึงเพิ่งแต่งตอนนี้ หนุ่มจา แจงว่า
จา : 'คือช่วงนั้นทำงานอยู่ครับ แล้วเราก็ต้องรอหาฤกษ์ที่เหมาะสมด้วยครับ'
นอกจากนี้ หนุ่มจายังได้เผยถึงแผนการในชีวิตคู่ที่จะดำเนินต่อไปในอนาคตว่า ตนจะให้ภรรยาสาวอยู่กับครอบครัวที่ จ.ระยอง ไปก่อน เพราะเป็นความประสงค์ของทางพ่อและแม่ฝ่ายหญิง ส่วนเรื่องสินสอดทองหมั้น หนุ่มเจ้าบ่าวไม่ขอเปิดเผย บอกแต่เพียงว่าเป็นไปตามความเหมาะสม
จา : 'ตอนนี้ก็คงอยู่กับพ่อแม่น้องเค้าไปก่อน เพราะพ่อแม่ยังไม่อยากให้ไปไหน ก็อยู่ช่วยเหลือกิจการที่จังหวัดระยอง ด้วยครับ ส่วนเรื่องสินสอดทองหมั้นก็เอาตามความเหมาะสม เราก็ทำกันเต็มที่ครับ ทางผู้ใหญ่และทางเสี่ยเจียงเขาจัดงานให้ สินสอดก็สมน้ำสมเนื้อครับ'
ก่อนจบคำถามสุดท้าย ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งคู่วางแผนว่าจะมีเจ้าตัวน้อยเมื่อไหร่ ซึ่งเรื่องนี้หนุ่มจาแจงว่า ตนตั้งใจจะมีลูกทันที เพราะทั้งตนและภรรยาก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว
จา : 'ตอนนี้ก็พัฒนาอยู่ครับ ปั๊มๆๆๆ (หัวเราะ) คิดว่าจะมีเลยครับ เพราะเราเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ต้องวางแผนอนาคตต่อไป ก็อาจจะมีโทนี่จาน้อยครับ เพราะลูกผู้ชายในการทดแทนบุญคุณพ่อแม่ก็คือการบวช และอีกสิ่งหนึ่งก็คือการมีครอบครัว การมีครอบครัวบนความถูกต้อง ซึ่งผมเคยบอกสื่อมวลชนแล้วว่า ถ้าผมจะมีครอบครัว ผมก็จะเปิดเผย และให้มางานผมอย่างในวันนี้ครับ'
ส่วนเรื่องแพลนฮันนีมูน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนุ่มจาบอกว่ายังไม่มีแพลนจะไปฮันนีมูนที่ไหนเพราะต้องรีบถ่าย ต้มยำกุ้ง 2 ให้เสร็จโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นหลังจากหนุ่ม 'จา-พนม' และภรรยาสาวให้สัมภาษณ์กองทัพสื่อมวลชนเป็นที่เรียบร้อย ได้ให้สัมภาษณ์นอกรอบกับผู้สื่อข่าวอีกจำนวนหนึ่งอีกครั้ง
โดยครั้งนี้เจ้าตัวยอมเผยเรื่องที่ว่า ภรรยาสาวคือน้อง 'บุ้งกี๋' นั้น ขณะนี้ได้ตั้งครรภ์แล้วเป็นเวลา 1เดือนครึ่ง ซึ่งเจ้าตัวรู้สึกดีใจที่จะได้มีทายาททันใช้ในเร็ววัน พร้อมกับบอกว่าอยากได้ทายาทเป็นผู้ชาย 1 คน และ ผู้หญิง 1 คน นอกจากนี้ยังได้เผยว่า พิธีแต่งงานจริงๆ นั้นเคยมีขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2553 ในวันที่ 19 ธ.ค. 53 และจดทะเบียนสมรสกับฝ่ายหญิง เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 53 ซึ่งสำหรับงานในวันนี้ที่จัดขึ้นเพื่อบอกกล่าวให้ทุกคนได้รับทราบอย่างเป็นทางการ และเป็นการให้เกียรติกับฝ่ายหญิง โดยช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดี
สำหรับบรรยากาศภายในงานฉลองมงคลสมรสในครั้งนี้นั้น มีคนในวงการบันเทิงมาร่วมงานกันอย่างหนาตา โดยมี นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง เป็นประธานในพิธี ส่วนเจ้าบ่าวคือหนุ่ม 'จา-พนม' แต่งชุดสูทขาวล้วน เฉกเช่นกับฝ่ายเจ้าสาวที่มาในชุดราตรีสีขาวล้วนเช่นกัน ตมคอนเซปต์งาน เน้นโทนสีขาว




