วันที่ 26 มี.ค. 2555

ทายาทนักแสดงรุ่นใหญ่ “แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์” ควงแขนเจ้าบ่าว “เม่น ธนวัตน์ ดุษฎีวิจัย” ฉลองวิวาห์เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2555 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล ท่ามกลางแขกและสื่อมวลชนที่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง ทั้งคู่ได้เปิดใจสัมภาษณ์ต่อสื่อมวลด้วยว่า
แนน : “วันนี้ตื่นเต้น ทุกคนเมตตาเรามาร่วมงานกันเยอะ กลังจะต้อนรับไม่ทั่วถึง”
พิธีหมั้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
แนน : “ก็ดีนะคะ มีแต่คนภายในครอบครัวมาร่วมงาน คุณพ่อขอว่าให้มีรดน้ำสังข์ แห่ขันหมากและสวมแหวนแบบไทยเพราะคุณพ่อไทยมาก เพราะจริงๆ แนนอยากจัดงานแบบง่ายๆ แค่พิธีรดน้ำเจ้าบ่าวเจ้าสาว ยกน้ำชาให้พี่เม่นแค่นั้นจบ แต่บังเอิญว่าคุณพ่ออยากได้แบบจัดเต็ม คือมีขบวนขันหมาก รดน้ำ สวมแหวน”
จากวันหมั้นถึงวันนี้ได้ใช้ชีวิตร่วมกันหรือยัง
แนน : “ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพราะบ้านพี่เม่นกับบ้านแนนอยู่ใกล้กัน เดินทาง 10 นาทีถึง พี่เม่นก็จะแวะเวียนมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวเราบ่อยๆ ค่อนข้างสนิทกับน็อต เป็นคู่หูเลยคะ”
เม่น : “ดีมากครับ”
ได้ย้ายเข้าไปอยู่เรือนหอหรือยัง
แนน : “ช่วงนี้อยู่บ้านพี่เม่นก่อน พอดีว่าเรือนหอกำลังสร้างอยู่ คือสร้างอยู่ภายในพื้นที่บ้านตัวเอง พอเสร็จแล้วพี่เม่นก็จะมาอยู่ด้วยกันกับครอบครัวเรา อีกประมาณปีนึงคะ กว่าเรือนหอจะสร้างเสร็จ”
แนนเตรียมความพร้อมเป็นแม่บ้านอย่างไรบ้าง
แนน : “คือจริงๆ แล้วแนนไม่ค่อยเป็นแม่บ้านเลยคะ เพราะเราก็คนทำงาน ถ้าเป็นเรื่องพวกนี้พี่เม่นจะถนัดกว่า ส่วนใหญ่เรา 2 คนก็ไปทานข้าวนอกบ้านกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดวันไหนแนนอยากจะทานอะไรเป็นพิเศษ ก็จะสั่งแม่บ้าน”
แต่งงานแล้วจะมีทายาทเลยไหม
แนน : “ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้่เลยคะ อยากทำงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปก่อนสักพักค่ะ”
มีแพลนจะไปฮันนีมูนที่ไหน
เม่น : “ภายในปีนี้ก็ว่าจะพาเขาไปอเมริกา ไปซานฟรานซิสโกครับ อยากพาไปสัก 2 อาทิตย์เพราะผมเคยไปเรียนที่นั่น”
ได้มีการให้คำสัญญากันและกันหรือเปล่า
แนน : “ไม่มีคะ คือเราทั้งสองคนก็แต่งงานกันตอนอายุเยอะแล้ว ก็อาจจะอยู่กันเป็นเหมือนเพื่อนสนิท เพื่อนที่รู้ใจ จนกว่าเราจะแก่ไปด้วยกัน”
มาถึงวันนี้แนนคิดว่าเป็นเหมือนฝันไหม
แนน : “ต้องบอกว่าแนนไม่คิดว่าจะได้แต่งงานด้วยซ้ำ เพราะส่วนใหญ่ผู้หญิงก็จะแต่งกันตอนอายุ 30 แล้วเราก็เกินมาเยอะแล้ว ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ พอมันได้มาถึงแล้ว แนนก็รู้สึกดีใจ ที่เราได้มาเจอเพื่อนตาย ความรักของเราก็ไม่ได้หวือหวาอะไร เราอยู่ด้วยความเข้ใจมากกว่า”
ขอแต่งงานกัน มีเซอร์ไพร์สไหม
แนน : “ก็ไม่มีเลย พี่เม่นไม่ได้ขอ แค่ที่ผ่านมาเราก็คุยกันเรื่องอนาคตร่วมกันมาตลอด ก็เลยคิดว่านั่นแหละคือคำขอแต่งงาน จากนั้นพี่เม่นก็ไปสู่ขอแนนกับคุณพ่อ แต่คุณพ่อบอกให้คอยก่อน ค่อยแต่งงานกันตอนสิ้นปี แต่พอดีช่วงสิ้นปีติดปัญหานิดหน่อย จึงได้เลื่อนมาแต่ง มี.ค.”
คุณพ่อของแนนบอกกับคุณเม่นว่าอย่างไร
เม่น : “คุณพ่อก็บอกว่า แนนไม่เคยทำงานบ้านเลย ถ้ายังไงก็ฝากดูแลน้องด้วยแล้วกัน”
ทั้งสองคนประทับใจอะไรในกันและกันบ้าง
แนน : “ชอบพี่เม่นตรงที่เป็นคนสม่ำเสมอคะ ตั้งแต่คบกันเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน คอยดูแลเรา เป็นผู้ใหญ่เป็นผู้นำ จึงคิดว่าถ้าเกิดอยากจะฝากชีวิตไว้กับใคร ก็คงจะอยู่ที่เขาได้”
เม่น : “แนนก็มีนิสัยเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงครับ เนื่องจากเราสนิทกับแม่และน้องชายของเขามาก เลยทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าเราส่วนหนึ่งของครอบครัวเขาไปด้วย”
แนน : “คุณแม่ใจดีรักพี่เม่นค่ะ”
สุดท้ายนี้สาวแนนยังกล่าวด้วย "วันนี้แนนดีใจมากคะ และต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับเราทั้งสองคน เพราะจริงๆ พี่เม่นไม่ได้อยู่ในวงการ ก็จะรู้สึกเขินๆ ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่มาร่วมยินดีค่ะ”







