งานวิวาห์ทายาทมหาดำรงค์กุล ตนท์-สุพัตรา ความรักที่เริ่มจากเพื่อน
งานวิวาห์ทายาทมหาดำรงค์กุล ''ตุนท์-สุพัตรา'' ความรักที่เริ่มจากเพื่อน เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินประโยคข้างบนกันมาบ้าง เป็นการเปรียบเทียบว่า ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความเป็นเพื่อนจะคงอยู่ตลอดไป ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไร ความเป็นเพื่อนก็ไม่จางหาย
วันที่ 26 ต.ค. 2554

''ความรักแบบเพื่อน ไม่มีวันเลิกรา''

เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินประโยคข้างบนกันมาบ้าง เป็นการเปรียบเทียบว่า ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความเป็นเพื่อนจะคงอยู่ตลอดไป ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไร ความเป็นเพื่อนก็ไม่จางหาย

แต่ถ้าความสนิทสนฉันเพื่อน นานวันเข้ากลับรางเลือน คำว่า ''เพื่อน'' จางหายไป เปลี่ยนแปรไปเป็นความรักแบบคู่รัก และพัฒนาความสัมพันธ์ไปจนถึงขั้นเป็น ''คู่ชีวิต'' คงจะมีความสุขไม่น้อย

ตุนท์ มหาดำรงค์กุล ทายาทของ ภูริช และ ดารารัตน์ มหาดำรงค์กุล ตระกูลดังที่คุ้นหู ผู้นำเข้านาฬิกาดังจากต่างประเทศอย่าง ''ไซโก้'' และ ''โอเรียนท์'' สู่เมืองไทยมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี พูดได้เต็มปากว่าไม่มีคนไทยคนไหนไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อของ ''ไซโก้'' นอกจากจะเป็นนาฬิกาที่มีระดับและคุณภาพสูงแล้ว อย่างน้อยในทุกโอกาสที่เป็นมิ่งมหามงคลเฉลิมพระเกียรติของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราจะได้ยินชื่อ ''พลุไซโก้'' ที่มาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้พี่น้องชาวไทยมาหลายครั้งหลายครา ก็มาจากความจงรักภักดีต่อในหลวงของเราจากตระกูล ''มหาดำรงค์กุล'' นี่เอง

ที่สำคัญหนุ่ม ''ตุนท์'' คนนี้ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับสาวสวย เกรซ มหาดำรงค์กุล พิธีกรและนักแสดงผู้รับบทพระสุพรรณกัลยาในภาพยนตร์ ''ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช'' อีกด้วย

ส่วน ''น้องเดียร์'' สุพัตรา พลศร บุตรสาวของ ร.ต.ต.สมพงศ์ และ นฤมล พลศร สาวน้อยคมเข้มสายเลือดสุพรรณฯ เต็มตัว ถึงแม้ว่าหลายคนจะไม่เคยได้ยินชื่อหรือคุ้นหูคุ้นตากันมาก่อน แต่ถ้าครองหัวใจของหนุ่มที่ได้ชื่อว่ามีนามสกุลดังเป็นไฮโซลำดับต้นๆ ของเมืองไทยได้ แสดงว่าต้องมีคุณสมบัติไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ทั้งสองคนมีประวัติการศึกษาและทำงานที่ยาวเฟื้อย สวนทางกับวัยวุฒิอย่างไม่น่าเชื่อ ทางด้านของ ''ตุนท์'' นั้น เป็นลูกชายคนโต จบปริญญาตรีที่เมลเบิร์น ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศออสเตรเลีย และกลับมาเรียนต่อที่เมืองไทยโดยจบการศึกษาในระดับปริญญาโท Master of  Management Program International Business ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถมยังต้องบินไปเรียนด้านภาษาที่ญี่ปุ่นอีกด้วยที่ Human Academy Japan Languages School. เนื่องจากจะต้องประสานงานร่วมกับชาวญี่ปุ่นอยู่ตลอดเวลา

หนุ่ม ''ตุนท์'' เริ่มต้นการทำงานที่ไม่เหมือนใครนั่นก็คือ ฝึกที่โรงนมและโรงเพาะเห็ด และศูนย์วิจัย ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชวังสวนจิตรลดา ปัจจุบันเป็นผู้บริหารของคล็อกกรุ๊ป ในแบรนด์ไซโก้, โอเรียนท์ ฯลฯ

ส่วน ''น้องเดียร์'' สุพัตรา พลศร ก็เป็นบุตรสาวคนโตของบ้านเช่นเดียวกัน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขั้นเกียรตินิยมของม.ธรรมศาสตร์ หลักสูตร Bachelor of Liberal Arts., British and American studies program.และเข้าฝึกการอบรมภาษาแมนดารินที่ Chinese Institute of communication and Culture. และจบการศึกษาระดับปริญญาโทที่จุฬาลงกรณ์ฯ Master of  Management Program International Business เช่นเดียวกับหนุ่ม ''ตุนท์'' ซึ่งเป็นที่ที่ทั้งคู่ได้เริ่มรู้จักกันและสานต่อความรักมาจนถึงวันนี้ ปัจจุบันทำงานในตำแหน่ง Senior HR Officer ที่บริษัท Jaspal

หลังจากได้คบหากันและตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว งานมงคลจึงเกิดขึ้น โดยหนุ่ม ''ตุนท์'' นั้นได้ยกขบวนขันหมากไปสู่ขอสาว ''เดียร์'' ถึงจ.สุพรรณบุรี เมื่อ 27 ส.ค.2554 โดยที่คุณพ่อและคุณแม่ของฝ่ายหญิงนั้นได้ชื่อว่าหวงลูกสาวเป็นที่สุด เพราะ ''น้องเดียร์'' ถึงแม้จะเป็นสาวสมัยใหม่ แต่ได้ชื่อว่าเป็น ''แม่พลอย'' ของยุคนี้ มีความเป็นไทยและรักนวลสงวนตัว ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน แต่ด้วยความจริงใจและมั่นคงของฝ่ายชาย จึงทำให้ฝ่าด่านอรหันต์สำเร็จ

งานฉลองมงคลสมรสของ สุพัตรา และตุนท์ มีขึ้นเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2554 ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กทม. มีแขกเหรื่อในวงสังคมและวงการบันเทิงชื่อดังเข้าร่วมอวยพรอย่างคับคั่ง โดยมี นายขวัญแก้ว วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง ให้เกียรติมาเป็นประธานในงาน

ทั้งคู่เปิดใจถึงเหตุที่ตกลงปลงใจมาใช้ชีวิตร่วมกันว่า เนื่องจากเป็นเพื่อนที่เรียนปริญญาโทอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ชอบอะไรหลายอย่างที่ตรงกัน จึงมักจะจับคู่ทำงานด้วยกันเสมอ เพียงแต่ในช่วงแรกนั้น ยังไม่กล้าที่จะเผยความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้เท่านั้น

หลังจากนี้ความเป็น ''เพื่อน'' ที่ทั้งคู่มีให้กัน ได้แปรสภาพมาเป็นพื้นฐานของความรักที่แข็งแกร่ง และจะมี ''ความเข้าใจ'' เป็นบทบาทต่อไปที่สำคัญของชีวิตคู่ก้าวเข้ามาแทนที่

เพราะหากไม่มี ''ความเข้าใจ'' ต่อให้รักกันปานใด ก็ยากที่จะประคองนาวาชีวิตให้ฝ่าคลื่นลมและมรสุมไปได้ เชื่อว่าสิ่งนี้ทั้ง ตุนท์ มหาดำรงค์กุล และ สุพัตรา พลศร จะมีให้กันอย่างไม่มีวันหมด







www.siamdara.com
จำนวนคนอ่าน 44945 คน
 
ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องกัน