เพราะถือเป็นไฮไลต์ของงานนี้เลยเหมือนกันที่
ทุกคนต่างก็คอยลุ้นกันว่าชุดจะออกมาเป็น
แบบไหน และเมื่อได้เห็นแล้วก็ไม่ทำให้
ผิดหวังจริงๆ เพราะในงานเสกสมรสของ
เจ้าชายวิลเลียมและพระชายาแคทเธอรีน
มิดเดิลตัน หลายๆ ท่านโดยเฉพาะสาวๆ ต่างก็ตั้งตาที่จะยลโฉมชุดเจ้าสาว ซึ่งก็ไม่
ผิดหวังเลยค่ะ ที่ได้เฝ้ารอต้องขอชื่นชมใน
ความงามที่เป็นชุดแบบเรียบง่ายแต่ดูดี และเหมาะกับบุคลิกของเธอแม้จะไม่ได้ดูหรูหรา
อลังการ แต่ก้ออกมาในแนวเรียบหรูดูมีสไตล์ เหมาะสมกับบุคลิกของพระชายามากๆ |
 |
เทียร่าหรือมงกุฎชิ้นนี้มีชื่อว่า halo tiara สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ทรงให้พระชายาเคท ยืมมาใช้ มงกุฎชิ้นนี้ทำมาจากเพชร Cartier ตั้งแต่ปี 1936 เป็นเทียร่าเก่าแก่ที่เจ้าชายอัลเบิร์ต ดยุคออฟยอร์ค ซึ่งต่อมาคือพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซื้อให้ภรรยาของท่าน(เอลิซาเบธ) ที่ต่อมาคือสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระบรมราชชนนี (พระชนนีของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2) จากร้าน Cartier ซึ่งต่อมาได้ยกให้เจ้าหญิงอลิซาเบธ (สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ) ตอน 18 ชันษา
ทำจากผ้าไหมสีงาช้าง (Ivory) เนื้อดี ปักริมผ้าเป็นลายดอกไม้อย่างประณีตด้วยมือ
เป็นรองเท้า hand - made อีกเช่นกัน ทำการตัดเย็บโดยทีมงานของ Alexander Mc Queen ทำจากผ้า satin สีงาช้างปักลูกไม้ด้วยมือจากวิทยาลัยในวังหลวง
|
 |
เป็นต่างหูเพชร รูปใบโอ๊ค มีส่วนที่ห้อยออกมาเป็นรูปทรงลูกแพรล้อม
เพชร มีเพชรเป็นรูปทรงผลโอ๊คห้อย
มา
ตรงกลาง
ต่างหูออกแบบโดย Robinson Pelham ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก
ตราสัญญลักษณ์ใหม่ประจำตระกูล Middleton ซึ่งประกอบด้วยผลและใบโอ๊ค ลักษณะของต่างหูนี้ถุกออกแบบให้รับกับ tiaraที่ใช้ในวันงาน โดยพ่อและแม่ของ พระชายาเคท
มอบให้เธอเป็นของขวัญ
ในวันแต่งงาน
|
 |
ชุดเจ้าสาวชุดนี้ออกแบบโดย Sarah Burton ซึ่งเป็น designer แห่งแบรนด์ Alexander Mc Queen เนื้อผ้าที่ใช้ตัดเย็บเป็น
ผ้าไหมชั้นดี ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน เนื้อผ้าก็จะไม่ยับ ลักษณะชุดเจ้าสาว
จะคอดบริเวณเอว แล้วค่อยๆ ปล่อยบานออกจากบริเวณสะโพก ซึ่งเป็นลักษณะชุดของสมัย Victorian และการดีไซน์แบบนี้ยังเป็นลักษณะเฉพาะตัวของ
Alexander Mc Queen อีกด้วย บริเวณ
ตัวชุดประดับด้วยลูกไม้อังกฤษ ฝรั่งเศส ซึ่งปักด้วยฝีมือเย็บปักถักร้อยจากวิทยาลัย
ในวังหลวง ผ้าที่ใช้ตัดชุดเป็นผ้าไหม
ออแกนซ่าชั้นดี สีงาช้าง (Ivory)
|
บริเวณกระโปรงตกแต่งเป็นลายดอกไม้ ซึ่งได้มาจากการตัดด้วยมือจากผ้าลูกไม้
ลายต่างๆ แล้วนำมาเย็บติดกับเนื้อผ้า ทุกอย่างเป็นงานที่ปักและเย็บด้วยมือทั้งสิ้น และตัวกระโปรงมีการจับ pletes ให้ดูมีลาย
ละเอียดมากขึ้น ตัวกระโปรงก็จะทิ้งตัว
ลงสวยอยู่ตลอดเวลา หางกระโปรงยาว 2 เมตร 70 เซนติเมตร ส่วนกระโปรงด้านใน
ใช้ผ้าไหม tulle เย็บริมด้วยลูกไม้ ช่างจะ
คอยล้างมือทุกๆ 30 นาที เพื่อให้ลูกไม้และ
ไหมสะอาดบริสุทธิ์ และจะเปลี่ยนเข็มทุกๆ 3 ชั่วโมง เพื่อให้เข็มคมอยู่ตลอด โดยราคาของชุดนี้ตกอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท
|
|
|

ที่เจ้าชายวิลเลียมและพระชายาเลือกใช้ในงานนี้นั้น ไม่ได้มีเพียงชุดเดียว แต่มีด้วยกันถึง 2 ชุด โดยชุดแรกซึ่งถือเป็นเค้กชุดหลักทำจากเค้กผลไม้
สูง 8 ชั้น ฝีมือของ ฟิโอนา แคร์นส์ แม่ครัว
เค้กผู้ซึ่งเจ้าชายและพระชายาทรงชื่นชอบรสชาติ
เค้กผลไม้ของเธออยู่ก่อนแล้ว ส่วนฝีมือ
การออกแบบเค้กนั้น พระชายาแคทเธอรีน
เป็นคนลงมือออกแบบเองเลยทีเดียว
ตลอดจนถั่ววอลนัท และบรั่นดีจากฝรั่งเศส โดยใช้เค้กทั้งหมด 17 ก้อน เป็นส่วนฐาน 12 ก้อน ตกแต่งด้วยครีม และไอซิ่ง และยังประดับด้วยอักษร K และ W ไขว้กัน พร้อมดอกไม้ที่ใช้ประดับตกแต่งทำจากน้ำตาล
อย่างประณีต 900 ดอก ต้องอาศัยเทคนิคของโจเซฟ แลมเบธ ซึ่งใบไม้ ดอกไม้ และเครื่องตกแต่งอื่นๆ จะถูกประดิษฐ์ให้เป็น 3 มิติอย่างสลับซับซ้อน
|

จะเป็นทางการน้อยกว่าเค้กชุดแรก โดยเป็นเค้กช็อกโกแลตบิสกิต ของโปรดสมัยยังทรงพระเยาว์ของเจ้าชาย
วิลเลียม ผู้ซึ่งโปรดปรานช็อกโกแลตมาก และคิดว่าเค้กแต่งงานทั่วไปค่อนข้างหนักเกินไป ดูเป็นทางการเกินไปนั่นเอง
|
|
|
|
แต่ขอบอกก่อนว่าที่เรานำมาให้ดูนั้นเป็นของ
วันพิธีอภิเษกที่จัดในรูปแบบค็อกเทลค่ะ ไม่ใช่
แบบ dinner full course ที่เชิญเฉพาะ
พระบรมวงศานุวงศ์กับเชื้อพระวงศ์ต่างชาติ
และบุคคลสำคัญเท่านั้นครับ

 |
- Bubble & Squeak Confit With Shoulder of Lamb
- Cornish Crab & Apple With Lemon Blini
- Handmade White Chocolate Candy
- Mini yorkshire Puddings With Roast Beef & Horse Radish Cream
- Quail Eggs
- Salmon Canapes
- Wilted Spring Onion & Water Cress Mini Quiches
|
|

ซึ่งเครื่องกระเบื้องชุดนี้ทางราชสำนักอังกฤษ
จัดทำขึ้นเพื่อแจกและจำหน่ายเป็นที่ระลึก เนื่องในโอกาสพิเศษครั้งนี้
|
 |