Welcome to Weddinginlove Newsletter : ISSUE 23 ,November 1 ,2011

ติดตามอ่าน Weddinginlove Newsletter ฉบับอื่นๆได้ที่นี่!!

ติดตามอ่าน Weddinginlove Newsletter ฉบับอื่นๆได้ที่นี่!!
Issue 23 /November 1, 2011
สวัสดีค่ะ Weddinginlove Newsletter กลับมาแล้วค่ะ ในสถานการณ์ที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ทะเลน้ำจืดแบบนี้ เราขอพักยกเรื่องของธุรกิจไว้สักครั้ง เพราะตอนนี้หลายคนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยกันอย่างถ้วนหน้า บางคนถึงกับหมดกำลังใจ ฉะนั้นในตอนนี้เราจึงต้องพยายามดูแลและให้กำลังใจกันและกันเป็นดีที่สุดค่ะ
และอย่างที่บอกไปแล้วว่าใน Newsletter รอบนี้เราจะขอพักยก งดพูดถึงเรื่องธุรกิจการค้ากันสักครั้ง แต่จะขอเปลี่ยนมาเป็นวิธีการดูแลบ้าน ที่อยู่อาศัย รวมถึงตนเองและคนรอบข้างด้วย หรือใครจะเอาไปปรับใช้กับที่ร้านก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าใครโชคดีไม่ได้ประสบปัญหากับอุทกภัยในครั้งนี้ ก็สามารถบอกต่อคำแนะนำที่เรานำมาฝากในครั้งนี้ได้ เราจะยินดีมากยิ่งขึ้นไปอีกเลยค่ะ ซึ่งวิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากและซับซ้อนอะไร เอาเป็นว่าเลยเข้าไปอ่านกันเองเลยดีกว่าค่ะ

ทำการตรวจสอบให้ทั่วบ้าน พร้อมทำ Checklist


ว่าบ้านของคุณเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง เช่น รั้วเอียง ปาร์เก้ล่อน คราบน้ำตามผนังบ้าน ความชื้น

 

ตรวจสอบสถานภาพทางการเงินของคุณเองว่าเป็นอย่างไร
มีงบประมาณในการซ่อมแซมบ้านได้เท่าไร สามารถซ่อมแซมได้ในครั้งเดียวเลยหรือไม่ หรือจะสามารถทำการกู้ยืมจากที่ไหนได้บ้าง เพื่อจะได้วางแนวทางสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านได้
ปัญหาจากท่อระบายน้ำ อีกหนึ่งปัญหาที่คุณอาจนึกไม่ถึง

เพราะในยามที่น้ำท่วมน้ำที่อยู่ภายในบ้านจะไม่สามารถระบายน้ำออกสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะได้ หนำซ้ำน้ำจากท่อระบายน้ำยังไหลย้อนกลับเข้าบ้านของคุณอีกต่าง มาไม่มาเปล่ายังนำเอาเศษดินโคลนเข้ามาภายในบ้านและทำให้ท่อระบายน้ำของคุณอุดตันหนักเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งการแก้ไขก็พอจะทำได้ดังนี้

  • หากเป็นท่อระบายน้ำระบบมีฝาเปิดตลอดแนว ก็เปิดฝาท่อออกแล้วตักเศษดินโคลนและเศษขยะที่ทำให้ท่ออุดตันออกได้เลย
  • หากเป็นท่อระบบไม่มีฝาเปิดตลอด ให้ลองใช้ไม้ยาวๆ ควานลงไปตามท่อ หรือเรียกช่างมาช่วยดูแลจัดการแทนก็ได้ค่ะ
  • ไม่ควรใช้น้ำฉีดลงไปตามท่อเพราะนอกจากจะทำให้เปลืองน้ำแล้วยังไม่ช่วยให้การอุดตันของท่อดีขึ้น หนำซ้ำยังเป็นการทำให้ท่อระบายน้ำสาธารณะอุดตันมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
ปัญหารอบรั้วบ้าน หลังจากที่น้ำลดลงแล้วอีกที่หนึ่งของบ้านที่อาจเกิดปัญหาได้ก็คือรั้วบ้าน

ที่ต้องรับแรงกระแทกของคลื่นน้ำ และเมื่อถูกแช่น้ำอยู่เป็นเวลานานดินที่ฐานรั้วจะเกิดการอ่อนตัวจนยุบตัวลงได้ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจลองทำการตรวจสอบเพื่อหาทางป้องกันและแก้ไขด้วยวิธีต่อไปนี้ดูนะคะ

  • ใช้สายตาเล็งดูว่า รั้วเอียงหรือไม่ ถ้าเอียงก็จัดการซ่อมแซมซะ แต่ถ้ายังมีงบประมาณไม่พอจะใช้วิธีหาไม้มาค้ำยันไว้ก่อนก็ได้ แต่ถ้าเอียงมากอาจจะต้องเพิ่มไม้ค้ำให้มากขึ้นอีกสักหน่อย เพื่อความปลอดภัย
  • ถ้ารั้วบ้านของคุณมีคานคอดินที่คอยทำหน้าที่รับน้ำหนักรั้วอยู่ เมื่อน้ำลดน้ำมักจะพัดเอาดินในส่วนนี้ออกไปด้วย ทำให้รูโหว่ที่ใต้คานรั้ว ซึ่งอาจทำให้เป็นช่องทางให้สัตว์ต่างๆ แอบเข้ามาในบริเวณบ้านของคุณ และยังทำให้ดินภายบ้านของคุณไหลออกไปสู่ภายนอกบ้านได้อีกด้วย
เรื่องพื้นๆ ที่อาจจะไม่พื้นอย่างชื่อ
  • ปาร์เก้ต์เปียกน้ำ พื้นปาร์เก้ต์จัดเป็นพื้นที่อ่อนแอไม่แข็งแรง หากถูกน้ำท่วมสัก 5-7 วัน ไม้ปาร์เก้ต์อาจปูดโปนออกมา หากเป็นมากอาจปูดโปน บิดเบี้ยว และหลุดล่อนออกมาเพราะกาวที่ใช้ทายึดปาร์เก้ต์ถูกแช่น้ำนานจนเกินไปแถมบางครั้งยังมีกลิ่นเหม็นบูดเน่าอีกด้วย หากมีอาการแบบนี้ไม่ต้องเสียดายให้โยนทิ้งได้เลย แต่ถ้าเป็นไม่มากยังมีสภาพดีอยู่ไม่ถึงกับหลุดล่อนปูดโปนก็แค่เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง แล้วปล่อยทิ้งไว้ เปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเทเพื่อไล่ความชื้นออกไป ถ้าปาร์เก้ต์ยังชื้นอยู่อย่าเพิ่งเอาน้ำมัน แว็กซ์ หรือแล็กเกอร์ไปทาเคลือบผิวไม้ เพราะจะทำให้ความชื้นในเนื้อไม้ระเหยออกมาไม่ได้
  • หากต้องการเลาะพื้นปาร์เก้ต์ที่ปูไว้ออกแล้วปูพื้นใหม่ด้วยปาร์เก้ต์หรือวัสดุปูพื้นชนิดอื่นที่ต้องใช้กาวเป็นตัวประสานเช่นเดียวกัน ไม่ควรปูทับลงไปทันทีหลังจากที่เลาะพื้นชุดเดิมออก แต่ควรปล่อยให้พื้นคอนกรีตแห้งสนิทเสียก่อน ไม่อย่างนั้นจะทำให้พื้นที่ปูลงไปใหม่ล่อนหลุดได้ง่าย แต่หากต้องการจะเปลี่ยนชนิดของวัสดุที่ใช้พื้นปูควรปรึกษาช่างเสียก่อน เพราะต้องให้ช่างตรวจดูโครงสร้างของพื้นก่อนว่าสามารถใช้วัสดุปูพื้นชนิดใหม่ได้หรือไม่ เนื่องจากปาร์เก้ต์เป็นไม้น้ำหนักเบาพื้นที่ 1 ตารางเมตรอาจจะหนักเพียง 5 กิโลกรัม แต่สำหรับพื้นหินอ่อน หรือแกรนิตรวมกับน้ำหนักปูนทรายที่ใช้ปูแล้วอาจหนักถึง 120 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ระบบไฟฟ้าปัญหาใหญ่หลังน้ำลด ในช่วงที่น้ำท่วมถ้าปิดวงจรไฟฟ้าในบ้านหรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าปิดคัทเอ้าท์
ก็คงจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าน้ำลดอยากจะเปิดไฟฟ้าใช้คราวนี้ล่ะอาจเกิดปัญหา ประเหมาะเคราะห์อาจได้รับอันตรายถึงชีวิตกันเลย ฉะนั้นเรื่องนี้จึงต้องระวังเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถอาศัยแนวทางได้ต่อไปนี้
  • ใส่ฟิวส์ที่คัทเอ้าท์แล้วลองเปิดคัทเอ้าท์ให้มีกระแสไฟฟ้าเข้ามา หากปลั๊กจุดไหนที่ยังคงเปียกชื้นอยู่ฟิวส์จะขาดและคัทเอ้าท์จะทำการตัดไฟทันที ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ให้เปลี่ยนฟิวส์แล้วทิ้งไว้สัก 1 วัน ให้ความชื้นระเหยออกไปแล้วลองทำซ้ำ ถ้าฟิวส์ยังขาดและคัทเอ้าท์ยังตัดไฟเช่นเดิม ให้ตามช่างหรือผู้รู้มาแก้ไขทันที
  • ถ้าการทดสอบในขั้นตอนผ่านไปได้แบบไม่มีปัญหา ให้ลองเปิดไฟฟ้าทีละจุด และทดสอบกระแสไฟฟ้าในปลั๊กแต่ละอันว่าไฟฟ้ามาปกติดีหรือไม่ หรืออาจหาซื้ออุปกรณ์ตรวจกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีหน้าตาคล้ายไขควงมาเสียบทดลองดู หากทุกจุดทำงานได้ปกติก็สบายใจได้ไปเปาะหนึ่ง แต่ถ้าบางจุดมีปัญหาก็ลองปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งสักพัก แต่ถ้ามีเงินมากพอก็ตามช่างมาตรวจดูอีกทีจะดีกว่า
  • ดับไฟทุกจุดในบ้าน ปลดเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทั้งหมด แต่ยังเปิดคัทเอ้าท์ทิ้งไว้ แล้วไปดูที่มิเตอร์ไฟฟ้า ถ้ายังเคลื่อนไหวอยู่แสดงว่าในบ้านคุณอาจจะยังปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่หมด หรือน่าจะมีไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น
สุขา...ไม่เป็นสุข
หลังจากปัญหาน้ำท่วมคลี่คลายไปแล้ว แต่บางบ้านกลับพบปัญหาใหม่ๆ ที่เกิดตามมา และหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยก็คือ ปัญหาห้องสุขาที่ช่วยปลดทุกข์ให้เรานั่นเอง
  • หากส้วมที่บ้านของคุณเป็นระบบบ่อเกรอะ- บ่อซึม แล้ววางอยู่ในบริเวณพื้นดินที่ชุ่มน้ำ มักจะพบว่าบ่อซึมไม่ยอมซึมน้ำออก แถมในช่วงน้ำท่วมน้ำจากนอกบ่อยังจะไหลย้อนเข้าไปในบ่อทำราดส้วมไม่ลง แถมทุกข์ที่ปล่อยออกไปยังลอยตุ๊บป่องๆ ออกมาอีกตะหาก ซึ่งวิธีแก้ก็คือรอสักพักให้พื้นดินแห้งสักหน่อยก็จะช่วยให้ปัญหาที่กล่าวมาคลี่คลายลงไปได้ หรือถ้าที่บ้านของคุณพบปัญหาเหล่านี้บ่อยๆ จะแก้ไขด้วยการเปลี่ยนมาใช้ระบบถังส้วมสำเร็จซึ่งเป็นระบบเครื่องกลสำหรับย่อยสลายปฏิกูล จนเป็นน้ำสะอาดแล้วจึงปล่อยลงท่อระบายน้ำสาธารณะแทนก็ได้
ถ้าบ้านคุณใช้ระบบถังบำบัดสำเร็จหรือถังส้วมสำเร็จอยู่แล้ว

ถังบำบัดบางรุ่นบางยี่ห้ออาจต้องใช้ไฟฟ้าเป็นตัวหมุนมอเตอร์สำหรับปั่นอากาศที่ช่วยในการย่อยสลาย ในช่วงที่น้ำท่วมคุณอาจปิดไฟ ถอดปลั๊กออก ดังนั้นหลังน้ำท่วมหากต้องการจะปลดทุกข์ก็เพียงแค่เปิดไฟหรือเสียบปลั๊กเพียงเท่านี้ก็ใช้ส้วมได้แล้ว แต่บางทีอาจหลงลืมทำให้เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นทุกข์หนักที่ไม่สามารถปลดปล่อยออกก็เป็นได้

 

ปัญหาระบบประปาในบ้าน
แม้จะดูว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่ถ้าไม่ระวังก็อาจเกิดผลเสียที่คุณคาดไม่ถึงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการตรวจสอบสามารถทำได้ดังนี้
  • บ้านที่มีระบบปั๊มน้ำควรตรวจสอบอุปกรณ์ปั๊มและถังอัดลมว่าอยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดี หรือไม่ โดยอาจตรวจสอบได้จากเสียงจากการทำงานของเครื่องจักรว่าผิดปกติหรือไม่ แรงดันน้ำเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับสมัยก่อนน้ำท่วม ถังลมสามารถเก็บแรงอัดได้ดีและยาวนานหรือไม่ มีเศษผง เศษดิน เศษไม้ลอยมาติดอยู่หรือเปล่า หากพบความผิดปกติอาจจะต้องทำการปรับ-ถ่ายระดับน้ำ ระดับแรงดันในหม้อลมด้วย
  • หากปั๊มน้ำถูกน้ำท่วม ยังไม่ควรใช้งานในทันที เพราะอาจมีอันตรายจากความชื้นในตัวมอเตอร์เกิดขึ้นได้ ซึ่งการที่มอเตอร์เกิดความชื้น เมื่อนำใช้งาน อาจทำให้เกิดการลุกไหม้ได้ ควรเรียกช่างมาตรวจสอบหรือถอดมอเตอร์ออกไปให้ช่างดูก็ได้ ที่สำคัญควรทำให้มอเตอร์แห้งสนิทก่อนด้วย แต่ไม่ควรทำให้แห้งด้วยการนำไปตากแดดแล้วคิดเองว่าความชื้นหมดไปแล้ว
ผนังบ้าน กับปัญหาหลังน้ำท่วม
ผนังบ้านไม่ว่าจะทำมาจากวัสดุอะไรก็ตาม เมื่อแช่น้ำนานๆ ก็ย่อมต้องมีปัญหาตามมาแน่นอน แต่จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุเหล่านนั้นเอง
  • หลังจากนำลดให้เช็ดทำความสะอาดผนังบ้าน ถ้าผนังบ้านของคุณเป็นไม้ก็ง่ายหน่อย ไม่ต้องทำอะไรมากหลังจากเช็ดทำความสะอาดก็แค่ปล่อยให้ไม้แห้งสนิทก็ใช้ได้แล้ว ซึ่งธรรมชาติของไม้ถ้าอยู่ในที่แห้งๆ หรืออยู่ใต้น้ำไปซะเลยก็มักจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเดี๋ยวแห้ง เดี๋ยวเปียกบ่อยๆ จะทำให้ไม้มีปัญหาผุกร่อนได้ง่าย เมื่อมั่นใจว่าเนื้อไม้แห้งดีแล้วจึงค่อยทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ที่ผิวไม้ (การทาน้ำยาต่างๆ เช่น แล็กเกอร์ น้ำยารักษาเนื้อไม้ สี ก่อนที่ไม้จะแห้งสนิทจะทำให้ความชื้นไม่สามารถระเหยออกจากเนื้อไม้ได้ ซึ่งจะทำให้เนื้อไม้ชื้นแลผุได้ง่าย)
  • หากเป็นผนังปูน การทำความสะอาดจะคล้ายกับผนังไม้ แต่จะต้องใช้เวลาในการปล่อยให้ผนังแห้งนานกว่าเนื้อไม้ เพราะการระเหยความชื้นออกไปทำได้ยากกว่า
  • ผนังยิปซัม คือวัสดุที่ทำมาจากผงปูนยิปซัมหุ้มด้วยกระดาษอย่างดี แต่เมื่อถูกแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานานก็ต้องยุ่ยออกมาในที่สุด ซึ่งวิธีแก้ไขมีทางเดียวคือ เลาะแผ่นยิปซัมออกมาแล้วติดแผ่นใหม่เข้าแทนที่ แต่ก่อนจะติดดูก่อนว่าโครงผนังของคุณใช้วัสดุอะไร ถ้าเป็นโครงเหล็กก็ติดแผ่นยิปซัมใหม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นโครงไม้คงต้องเลาะออกมาแล้วทิ้งให้ไม้แห้งสนิทเสียก่อนค่อยติดแผ่นใหม่เข้าไป
  • ผนังโลหะหรือผนังกระจก ผนัง 2 ชนิดนี้ ในช่วงที่น้ำท่วมมักไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่เมื่อน้ำลดลงแล้วต้องทำการตรวจสอบตามซอก ตามรอยต่อ ว่ายังมีน้ำหรือเศษขี้ผงหรือไม่ ถ้ามีก็ทำความสะอาดกำจัดเศษผงออก
สีทาบ้าน ต้องทำอย่างไร

หลังจากน้ำลดจะพบว่าสีของบ้านที่เคยสวยสดงดงาม กลายเป็นสีกระดำกระด่าง สีลอกล่อนไปแล้ว แต่เรื่องสีบ้านยังไม่ต้องใจร้อน เก็บไว้ซ่อมแซมเป็นลำดับท้ายๆ เลยก็ได้ ขอแนะนำว่าให้ทำความสะอาดหรือลอกสีเดิมออกให้ได้มากที่สุด แล้วทิ้งไว้นานๆ เพราะปัญหาสีลอกล่อนสาเหตุหนึ่งมาจากการทาสีบนพื้นผิวที่มีความชื้นหรือสิ่งสกปรก เมื่อทาสีทับลงไปก็จะลอกล่อนออกได้

 

เครื่องใช้ไฟฟ้าถูกน้ำท่วม
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เมื่อน้ำลดแล้วควรถอดหรือยกไปให้ช่างหรือผู้รู้ตรวจสอบดู ไม่ควรนำไปตากแดดให้แห้งแล้วนำไปใช้เพราะความชื้นบางส่วนอาจฝังอยู่ภายใน เมื่อนำไปใช้หรือเครื่องกลทำงานอาจทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตได้
  1. หายใจเข้าออกช้าๆ 2-3 นาที เพื่อทำให้ออกซิเจนเข้าสู่สมองแล้วความเครียดจะลดลง
  2. การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้เกิดการตัดสินใจที่ดีขึ้นหากต้องติดตามข้อมูลข่าวสารควรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน
  3. การยืดเหยียดในท่าที่ผ่อนคลายจะช่วยให้การนอนหลับได้ดีขึ้น
  4. ความเครียดทำให้เรารับฟังกันน้อยลงจึงต้องดูแลตัวเองด้วย
  5. แปลงความกังวลเป็นการลงมือทำ รวมพลังครอบครัวและชุมชนเตรียมรับสถานการณ์วิกฤต
  6. ไม่ด่า ไม่ว่า ไม่ทับถม อย่าให้ความหวังดีเป็นความขัดแย้งและทำร้ายกัน
  7. ความกังวลใจจะลดลงได้หากได้ช่วยเหลือผู้อื่น ผู้ที่เป็นอาสาสมัครพบว่ามีปัญหาสุขภาพจิตน้อย
  8. อย่าลืมมีเวลาเล่น เล่านิทานกับลูก เพราะว่าเด็กก็มีความเครียดได้เช่นกัน
  9. การใส่ใจคนรอบข้างทำให้เราทุกข์น้อยลง
  10. แบ่งเวลาทำสมาธิ สวดมนต์ไหว้พระสร้างความสงบให้จิตใจ
All site contents copyright © www.weddinginlove.com.
 

ติดตามอ่าน Weddinginlove Newsletter ฉบับอื่นๆ คลิ๊กที่นี่ค่ะๆ
ติดตามอ่าน Weddinginlove Newsletter ฉบับอื่นๆ ได้ที่นี่ค่ะๆๆๆๆ

Copyright©2009 www.weddinginlove.com. All Right Reserved. Email: info@weddinginlove.com