6 คำถามเรื่อง เงินทอง
	 
	1. ใครหนอที่จะจัดการเรื่องเงิน?
	         เป็นคำถามแรกของคู่รักที่กำลังจะตัดสินใจแต่งงานและยังเป็นคำถามที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันตอบ เพราะหากร่วมหอลงโรงกันแล้วรายได้และทรัพย์สินหลังจากแต่งงานจะตกเป็นของกองกลางทันที ดังนั้น การจัดการดูแลเรื่องรายได้ รายจ่าย และหนี้สิน จึงต้องได้รับการจัดการและร่วมกันปรึกษาเพื่อไม่ให้ขาดเกินหรือเป็นหนี้จนต้องเดือดร้อนพ่อแม่
	2. ฉันต้องไปทำงานด้วยไหม?
	         ผู้หญิงหลายคนตัดสินใจลาออกจากงานมาดูแลบ้าน สามี และเตรียมตัวมีลูก โดยยึดแต่รายได้ของสามีมาจุนเจือครอบครัวจนลืมนึกถึงชีวิตส่วนตัว ทำให้กิจวัตรหลายอย่าง เช่น การช้อปปิ้ง จิบกาแฟกับเพื่อนเป็นเรื่องแค่วันวานเนื่องจากไม่มีรายได้เพียงพอกับค่าน้ำหอมขวดหรู ดังนั้นอย่าลืมว่า การหยุดทำงานคือการไม่มีรายได้ ถึงจะให้คอยเจียดเงินจากค่าใช้จ่ายที่สามีจุนเจือก็คงต้องเก็บอีกนาน แต่หากเลือกไม่ได้ที่จะต้องลาออกจากงานก็ควรทำประกันสังคมหรือประกันชีวิตไว้เพราะผู้หญิงน่ะอายุยืนกว่าผู้ชายจริงไหม
	3. รายได้ต้องหารครึ่งไหม?
	          รีบตกลงกันก่อนจะต้องมาทะเลาะกันว่า "ใครจะจ่ายค่าไฟเดือนนี้" วิธีง่าย ๆ ในการบริหารค่าใช้จ่ายในบ้าน คือ การเปิดบัญชีรวมโดยหาจากเปอร์เซ็นต์รายได้ของคุณแต่ละคนซึ่งดูจะเป็นธรรมมากที่สุด แต่สาว ๆ คนไหนที่บริหารเสน่ห์เก่งจนทำให้สามีแชร์เงินมาไว้กองกลางมากกว่าคุณก็ทำได้ แต่ที่สำคัญ! อย่าลืมแยกบัญชีส่วนตัวเพื่อคุณจะได้มีเงินเก็บและมีเงินใช้ส่วนตัวด้วยล่ะ
	
	4. ค่าใช้จ่ายต้องมีลิมิตเท่าใด?
	         แม้คุณจะเหลือเงินเพิ่มเพราะมีคนมาช่วยแชร์ค่าใช้จ่าย แต่ทั้งคู่ก็ควรตกลงกันว่า ในแต่ละเดือนควรมีงบประมาณในการใช้เงินเท่าไหร่ โดยเฉพาะการใช้บัตรเครดิตที่ต้องมีการบริหารจัดการที่ดีก่อนที่จะเป็นหนี้กองโตต้องลำบากให้คนรักมาช่วยสะสาง
	5. ต้องช่วยสะสางหนี้ของคนรักด้วยไหม?
	         หากแฟนหนุ่มดันมีหนี้ก้อนโตก่อนมาขอคุณแต่งงาน อันนี้ก็ต้องรีบสะสางกันก่อนจะเซย์เยส เพราะตามหลักจริยธรรมคุณก็ต้องเข้ามาร่วมปลดหนี้กับเขาด้วย ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ ทั้งคู่ควรปลดเปลื้องหนี้ของแต่ละคนให้หมดก่อนที่จะมาร่วมสร้างหนี้ด้วยกันใหม่
	6. คุยกันก่อนดีไหมว่าอนาคตการเงินทั้งคู่จะเป็นอย่างไร?
	         ส่วนมากผู้ชายสไตล์ติสต์จะไม่ค่อยคิดวางแผนการเงินเท่าไหร่ ดังนั้น ใครไม่ได้มีแฟนเป็นนักธุรกิจควรคุยกันเรื่องอนาคตการเงินสักหน่อย แต่หากไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรคู่รักสามารถปรึกษาและวางแผนครอบครัวกับผู้เชี่ยวชาญก่อนดีกว่าปล่อยชีวิตให้แขวนบนเส้นด้ายและต้องหาเช้ากินค่ำยันแก่
	
	หากว่าตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้วคุณก็หมดห่วงไร้กังวลและสามารถแต่งงานได้อย่างสบายใจและมีความสุขแล้วค่ะ